วาร์ปไปประเทศญีปุ่น ต่อกันสักหน่อย เพราะวันนี้เรามีวิธีเดินทางไป kamikochi สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตมาฝากเพื่อนๆ กัน ใครวางแผนจะไปเที่ยวอยู่ละก็ มาดูกันได้เลยจ้า
เลือกไปทางประตู 7 ALPICO Kotsu Kamikochi Line หน้าตารถไฟจะเป็นตามภาพ รอขึ้นรถไฟตามรอบที่จองมาได้เลย ส่วนตัวช่วงที่เราไปเป็นหลังจากที่เปิด Kamikochi ใหม่ๆ (เปิดเดือนเมษายน-พฤศจิกายน) จำนวนคนที่เดินทางในเที่ยวเดียวกันก็ค่อนข้างเยอะเลยละ ใช้เวลาเดินทางไปยังสถานี Shin-shimashima ประมาณ 30-35 นาที
เมื่อมาถึงสถานีปลายทาง ให้เราเดินออกจากตัวสถานี แล้วเลี้ยวขวาเพื่อต่อแถวขึ้นรถบัสที่เราจองมาล่วงหน้า (แสดงหลักฐานการจองใน e-mail ที่ได้รับมาได้เลย) พอเดินขึ้นไปในรถสามารถเลือกนั่งได้ตามสะดวก (เป็นการจองแบบไม่ระบุที่นั่ง) จากนั้นใช้เวลาในการเดินทางไปยัง kamikochi ใช้เวลาประมาณ 60-65 นาที รสบัสนั่งสบาย ชมวิวธรรมชาติสวยๆ ไปได้ตลอดทาง

แล้วเราก็ออกเดินต่มาจนถึง Kappa Bridge หรือ สะพานกัปปะ แลนด์มาร์กสำคัญในคามิโคจิที่ใครๆ ต่างก็ต้องแวะมา บริเวณนี้มีทั้งที่นั่ง ห้องน้ำ ร้านขายอาหาร-ของฝาก รวมไปจนถึงโรงแรม เลยเป็นจุดรวมตัวของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่บรรยากาศตรงจุดนี้ก็สวยงามจริงๆ
บรรยากาศร้านขายอาหาร และของฝาก มีให้เลือกเยอะมาก
วิธีเดินทางไป คามิโคจิ (Kamicochi)
ส่วนตัวเราออกเดินทางจากสถานี Matsumoto ⇆ Kamikochi จากข้อมูลอัปเดต 2025 รถบัสสำหรับไปเที่ยวคามิโคจิ จะต้อง Book ล่วงหน้าเท่านั้น (สามารถเริ่มจองล่วงหน้าได้ 1 เดือน) โดยมีให้จอง 2 แบบ คือ
- จองตั๋วรถบัสตรง (Matsumoto Bus Treminal --> Kamikochi)
- จองตั๋วรถบัส จากสถานี Shin-shimashima --> Kamikochi
โดยเราเลือกจองอย่างหลัง คือ ขึ้นรถไฟจากสถานี Matsumoto ไปยังสถานีรถบัส Shin-shimashima เพราะมีรอบให้เลือกได้เยอะกว่านั่นเอง
สำหรับการซื้อตั๋วรถไฟไปยังสถานี Shin-shimashima จะต้องซื้อที่ตู้ขายตั๋วเครื่อง 9-10 โดยใช้เงินสดเท่านั้น ไม่สามารถซื้อด้วย IC Card โดยจะเป็นการซื้อเฉพาะขาไป (ไม่มีตั๋วรถไฟแบบไป-กลับ)
เลือกสถานีปลายทางเป็น Shin-shimashima ราคาตั๋ว 710 เยน/คนเลือกไปทางประตู 7 ALPICO Kotsu Kamikochi Line หน้าตารถไฟจะเป็นตามภาพ รอขึ้นรถไฟตามรอบที่จองมาได้เลย ส่วนตัวช่วงที่เราไปเป็นหลังจากที่เปิด Kamikochi ใหม่ๆ (เปิดเดือนเมษายน-พฤศจิกายน) จำนวนคนที่เดินทางในเที่ยวเดียวกันก็ค่อนข้างเยอะเลยละ ใช้เวลาเดินทางไปยังสถานี Shin-shimashima ประมาณ 30-35 นาที
![]() |
ถึงแล้วจ้า สถานี Shin-shimashima มีความมาสคอตน่ารักมาก |

รถมาถึงสถานีปลายทาง คามิโคจิ ก็เริ่มต้อนรับเราด้วยบรรยากาศธรรมชาติที่แสนสงบ ร่มเย็น อากาศช่วงเดือนพฤษภาคม หิมะละลายไปหลายส่วนแล้ว ก็เหลือแค่อุณหภูมิความหนาวเย็นแค่เพียงเบาๆ เท่านนั้น จุดที่รถบัสจอดจะมีศูนย์ให้บริการนักท่องเที่ยว ร้านอาหาร-ไอศกรีมเล็กๆ รวมถึงมี Coin Lockers ให้ฝากของ (แต่ตู้ไม่เยอะนัก) นอกจากนี้ข้างๆ ก็มีห้องน้ำสะอาดๆ ให้บริการอยู่ด้วยละ เสร็จภารกิจแล้วก็ออกเดินทางกันได้
วิวสวยๆ เริ่มหาดูได้ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินลงมายังแม่น้ำสายนี้ น้ำใส ไหลเย็น วิวภูเขาด้านหลังก็สวยงามตระการตามากๆ มีสีของแมกไม้สีเขียวและหิมะที่กำลังเริ่มละลายย่ำเท้าต่อไปเรื่อยๆ ก็มาถึงจุดนั่งพักขนาดใหญ่ ตรงนี้เป็นจุดนั่งพักที่วิวสวยมาก เก้าอี้ทั้งหมดถูกจัดวางให้หันหน้าไปยังเจแปนเอลป์ นั่งคลายเหนื่อย พร้อมชมวิวธรรมชาติหลักล้าน
ลัดเลาะเดินมาเรื่อยๆ ก็มาถึง Myojin Bridge สะพานอีกเส้นก่อนถึงสะพานกัปปะ จุดนี้เราว่าก็สวยเด่นไม่แพ้กันเลย น้ำในแม่น้ำใสจนเป็นสีมรกต จุดตรงนี้คนแวะน้อยกว่าด้วย![]() |
วิวตรง Kappa Bridge สวยมาก |
บรรยากาศร้านขายอาหาร และของฝาก มีให้เลือกเยอะมาก
ส่วนตัวเราข้ามสะพาน ไปทานที่ร้านอาหารอีกฝั่ง เพราะเหมือนคนจะน้อยกว่าฝั่งของทางโรงแรม ร้านอาหารเป็นระบบสั่งเอง เสิร์ฟตัวเอง มีการรันคิวที่รวดเร็ว รอคิวและอาหารไม่นาน ถือว่าเหมาะกับการฝากท้องในยามที่คนเยอะ
ติดกันกับร้านขายอาหาร ก็จะเป็นร้านขายของฝาก มีให้เลือกซื้อทั้งของกิน ของใช้
กินข้าวเที่ยงเสร็จ เราก็แวะเดินเล่นเตร็ดเตร่กันต่อ พอใกล้ถึงเวลาที่จองรถบัสขากลับไว้ก็เดินมาที่ Bus Terminal เพื่อรอขึ้นรถบัส โดยจุดขึ้นรถบัสอยู่ไม่ไกลจากสะพานกัปปะ
ก่อนขึ้นรถก็แวะซื้อขนมโดรายากิหน้ากัปปะมา 1 ชิ้น ได้ฟีลญี่ปุ่นดีแบบสุดๆ
แล้วเราก็มาต่อคิวขึ้นรถบัสกัน เสาแต่ละต้นจะเป็นปลายทางที่ต่างกันออกไป สามารถดูรายละเอียดที่เสาต้นแถวได้เลย ส่วนตอนขึ้นรถบัสกลับไปยังสถานี Shin-shimashima ก็ใช้อีเมลล์เพื่อแสดงหลักฐานการจองให้เจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วดูได้เลย ระยะเวลาในการเดินทางกลับก็ประมาณ 60-65 นาทีเช่นเดียวกันเมื่อมาถึงสถานีปลายทางแล้ว ให้ไปตรงช่องขายตั๋วเพื่อซื้อตั๋วรถไฟสำหรับเดินทางกลับไปที่ Matsumoto (หรือใครจองตั๋วขากลับผ่านทางออนไลน์มาแล้ว ก็ไปออกตั๋วได้เลยโดยไม่ต้องซื้อเพิ่ม)
ตั๋วที่ได้มา ใช้ยื่นให้เจ้าหน้าที่ก่อนขึ้นรถไฟ โดยเราจะยื่นให้เจ้าหน้าที่ไป 1 อัน
พอมาถึงสถานี Matsumoto ให้เราเดินไปฝั่งตู้เจ้าหน้าที่ แล้วเอาตั๋วที่เหลืออีก 1 ใบ หย่อนในตะกร้า เพื่อออกจากสถานีได้เลยจ้า
และนี่ก็เป็นวิธีการเดินทางไปเที่ยว Kamikochi จากสถานีมัตสึโมโตะได้แบบง่ายๆ สรุปสั้นๆ คือ นั่งรถบัสตรงก็ได้ หรือนั่งรถไฟ JR แล้วไปต่อรถบัสที่สถานี Shin-shimashima (ต้องจองรถบัสล่วงหน้า 1 เดือน) ส่วนขากลับก็เลือกได้ 2 แบบเหมือนกัน เรื่องการเดินทางไปก็สะดวกมากๆ ทุกอย่างตรงเวลา เป็นระบบ ที่คามิโคจิบรรยากาศธรรมชาติก็สวยงามดี เหมือนเรามาเดินเที่ยวในสวนสวยๆ แต่เป็นสวนขนาดใหญ่ ที่มีแม่น้ำใสแจ๋วไหลผ่านตลอดสวน บรรยากาศดี ไม่ร้อนเกินไป (ถ้าไม่ไปช่วงหน้าร้อน) จำนวนนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ แต่ก็มีร้านขายของกินเยอะ แถมยังมีโรงแรมด้วยละ ถ้าใครสนใจเข้าพักที่นี่ก็จะได้วิวสวยๆ ให้ดูทั้งวันได้เลย อย่างไรก็ตามฝนฝ้าอากาศแถวๆ คามิโคจิอาจแปรปรวนเป็นช่วงๆ อาจจะต้องติดตามรายวัน