ชวนเที่ยวเมือง คาสุกาเบะ Kasukabe บ้านเกิดชินจัง Shin-chan

ชวนเพื่อนๆ แฟนๆ การ์ตูนเรื่องชินจัง Shin-chan ทุกคนมาเที่ยวเมืองบ้านเกิดของเจ้าน้องชินจัง เพื่อเติมเต็มความฝันวัยเยาว์กันให้ล้นหัวใจ เชื่อเหลือเกินว่าหลายๆ คนต้องโตมากับการดูการ์ตูนชินจังกันแน่ๆ วันนี้เราเลยมาเยี่ยมเยือนบ้านเกิดของชินจัง ที่ Kasukabe จังหวัดไซตามะ กันเป็นครั้งแรก จะมีอะไรให้เราดินเที่ยวบ้าง สนุกมากน้อยแค่ไหนมาดูกันเลยจ้า

วิธีเดินทางไป  Kasukabe บ้านเกิดชินจัง

วิธีเดินทางไป  Kasukabe บ้านเกิดชินจัง
ส่วนตัวเราออกเดินทางไปยังเมือง Kasukabe  จากสถานี Ueno ซึ่งก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางยอดนิยมเช่นเดียวกัน โดยเลือกขึ้นรถไฟสาย Tokyo Metro Hibiya Line จาก Ueno → Kita‑Senju ใช้เวลาในการเดินทางตรงประมาณ 10-15 นาที เมื่อมาถึงสถานี Kita‑Senju ให้เดินลงไปด้านล่างเพื่อเปลี่ยนไปใช้รถไฟสาย Tobu Skytree Line

วิธีเดินทางไป  Kasukabe บ้านเกิดชินจัง
เดินลงมาด้านล่าง ให้มองหาป้ายที่มีคำว่า Kasukabe ในภาพคือ เลข 1-2 สีน้ำเงิน โดยเราจะขึ้นรถไฟมุ่งตรงไปยัง Kasukabe  ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-35 นาที รวมค่าใช้จ่ายทั้งมดประมาณ 610 เยน/คน

วิธีเดินทางไป  Kasukabe บ้านเกิดชินจัง
มาถึงแล้วจ้าสถานี Ueno เราจะเห็นรายละเอียดของชินจังตั้งแต่เมื่อครั้งลงสถานีเลย มีเสียงเพลงประจำตัวของชินจังดังเมื่อถึงสถานี ส่วนที่ป้ายรถไฟก็จะมีชินจังและชิโระ เกาะอยู่ด้วย จากที่เราเห็นภาพของเพื่อนๆ เขาจะเปลี่ยนตัวละครที่มาเกาะไปเรื่อยๆ ด้วยนะ ใส่ใจทุกรายละเอียดมากๆ

เที่ยวบ้านเกิดชินจัง Kasukabe ตาม หา บ้าน ชิน จัง
เราเลือกออกทางออก East Exit โดยมีจุดมุ่งหมายแรกคือ Kasukabe Information Center & Crayon Shin‑chan Stamp Rally เพราะที่นี่จะเป็นเหมือนที่ให้ข้อมูลนักท่องเที่ยว และมีแผ่นสะสมแสตมป์ให้เราเริ่มเก็บไปได้ด้วย 

เที่ยวบ้านเกิดชินจัง Kasukabe ตาม หา บ้าน ชิน จัง
ใช้เวลาเดินมาจากสถานีมายัง Kasukabe Information Center & Crayon Shin‑chan Stamp Rally ไม่เกิน 10 นาที เสียดายวันที่เราไปฝนตก เลยทำให้เดินยากไปหน่อย แต่หัวใจนดวงน้อยๆ ก็ยังมีความสุขมากอยู่ดี

เที่ยวบ้านเกิดชินจัง Kasukabe ตาม หา บ้าน ชิน จัง
มีภาพเซตโปสเตอร์ขนาดใหญ่ด้านหน้า

Kasukabe Information Center & Crayon Shin‑chan Stamp Rally
Kasukabe Information Center & Crayon Shin‑chan Stamp Rally เปิดทำการ 09.00-16.30 น. บรรยากาศภายในเป็น office ขนาดไม่ใหญ่มาก โซนด้านซ้ายเต็มไปด้วยของเกี่ยวกับชินจัง ทั้งงานภาพร่าง โซนขายของฝากต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่จะแนะนำเส้นทางการเดินเที่ยวในเมือง เพื่อชมเมืองและล่าแสตมป์ไปด้วย เจ้าหน้าที่ในศูนย์ฯ คือน่ารักมาก สื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ และช่วยถ่ายภาพให้เราด้วย 
Kasukabe Information Center & Crayon Shin‑chan
รูปปั้นชินจังและฮิมาวาริ ที่เราสามารถถ่ายภาพร่วมได้เป็นจุดแรก 

Kasukabe Information Center & Crayon Shin‑chan Stamp Rally
สามารถซื้อโปสการ์ดลายเฉพาะได้

Kasukabe Information Center & Crayon Shin‑chan Stamp Rally
มีใบสะสมแสตมป์ (รับฟรีคนละ 1 แผ่น) จากจุดนี้ และสามารถเก็บแสตมป์แรกได้ ณ จุดนี้เลย อันนี้เป็นกิมมิคที่ทำให้เราอยากเดินเที่ยวทั่วๆ เมือง โดยจะมีจุดสำหรับเก็บแสตมป์ประมาณ 6 จุด ได้แก่
  • Kasukabe Tourist Info Center
  • Kasukabe Local History Museum
  • จุดพักริมทาง "Shōwa" (Michi-no-Eki Shōwa) มีร้านของฝากและอาหารท้องถิ่น
  • ห้องสมุดเมือง Kasukabe
  • Underground Temple (G-Cans)
  • LaLa Garden (ชั้น 3 – Studio)

เมื่อออกจากจุดแรก เราก็มุ่งหน้าเดินตรงไปยัง Kasukabe Local History Museum หรือพิพิธภัณฑ์กลางเมือง โดยเขาเปิดให้เข้าฟรี และมีจุดเก็บแสตมป์ที่ด้านในอาคารด้วย

ภายในมีการจัดโชว์ประวัติศาสตร์ วัตถุโบราณของเมือง Kasukabe เอาไว้ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว แต่เสียดายที่มีรายละเอียดภาษาอังกฤษให้อ่านค่อนข้างน้อย ส่วนตรงมุมทางออกจะงานวาดของชินจังอยู่ด้วย

LaLa Garden kasukabe
LaLa Garden kasukabe
จากนั้นเราก็ออกเดินเลียบจากฝั่ง Kasukabe Local History Museum มาเรื่อยๆ แล้วเดินข้ามถนนเพื่อขึ้นสะพานไปยังถนนฝั่งเดียวกันกับ LaLa Garden ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าที่ตั้งอยู่ในเมืองคาสุคาเบะ โดยห้างจะเปิดทำการตั้งแต่ 10.00-20.00 น. Highlight สำคัญของห้างแห่งนี้คือ Crayon Shin‑chan Studio ร้านขายสินค้า และฉายภาพยนตร์ของชินจัง ที่ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของตัวห้าง
Crayon Shin‑chan Studio LaLa Garden
Crayon Shin‑chan Studio LaLa Garden
ถึงห้างก็ขั้นบันไดเลื่อนขึ้นมาที่ชั้น 3 จะมีภาพชินจังขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า ด้านในจะมีรูปปั้นเกี่ยวกับชินจังเยอะมาก ทั้งรอยปั๊มมือ-เท้า ของตัวละครต่างๆ รูปปั้นตรูดส์ทองของชินจัง โบจังน้ำมูกเย้อย มีมุมถ่ายภาพประมาณหนึ่ง 

Crayon Shin‑chan Studio LaLa Garden
พร้อมด้วยโซนขายของฝากต่างๆ แต่ในใจแอบคิดว่า Crayon Shin‑chan Studio จะมีขนาดใหญ่ และมีสินค้าลิขสิทธิ์มากกว่านี้สักหน่อย รายการสินค้าที่นี่จะเป็นแนวกิ้ฟท์ช็อป อุปกรณ์การเรียน เหมือนจะมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นน้องๆ หนูๆ นักเรียน ประมาณนั้น 
Crayon Shin‑chan Studio LaLa Garden
มีรูปปั้นครอบครัวของชินจังด้วย เติมเต็มหัวใจมากกก ปล. ที่นี่มีแสตมป์ด้วยนะ แต่เราหาไม่เจอ!!

Crayon Shin‑chan Studio LaLa Garden
โซนด้านหลังจะเป็นที่หนีบตุ๊กตา (แบบจ่ายเงิน) มีสินค้าของชินจังให้หนีบประมาณ 3-4 ตู้ เราว่าน้อยไปหน่อย ส่วนตู้อื่นๆ จะเป็นตุ๊กตาทั่วๆ ไป เลยแอบเสียดายว่าถ้ามีสินค้าชินจังให้เรามาหยิบเยอะกว่านี้น่าจะเอ็นจอยกับการเสียเงินจับตุ๊กตามากขึ้นไปอีก เดินเล่นจนทั่วพร้อมหยิบตุ๊กตาเล็กๆ น้อยๆ ประมาณ 30-40 นาที เราก็ออกจาก Crayon Shin‑chan Studio แล้วแวะหาทานมื้อเที่ยงในห้าง LaLa Garden เสียหน่อย

Kasukabe
Kasukabe
KASUKABE CITY HALL เป็นหมุดหมายถัดไปที่เราจะไปกันต่อ ความดีงามคือทุกที่ก็จะเดินถึงกันได้ง่ายๆ ใน City Hall จะมีรายละเอียดของเมืองให้เราได้ดู ชั้น 2 จะเป็นเหมือนโซน Office วันที่เราไปเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ คนทำงานเลยน้อย 

bloomy's cafe kasukabe ชินจัง
bloomy's cafe kasukabe ชินจัง
จุดที่เราจะไปคือ BLOOMY'S Cafe เพราะในคาเฟ่แห่งนี้มีที่เก็บแสตมป์อีก 1 จุด สำหรับใครที่อยากแวะทานเครื่องดื่มกาแฟ ขนมปัง และอาหารมื้ออิ่มๆ ได้เช่นเดียวกัน บรรยากาศด้านในคาเฟ่สวยดีเลยละ

KASUKABE CITY HALL
ออกจากคาเฟ่แล้ว สามารถเดินขึ้บันไดไปที่ชั้น 2 จะเห็นภาพวาดขนาดใหญ่ของครอบครัวชืนจัง เป็นต้นที่ฮิมาวาริแรกเกิด จากนั้นลงบันไดเลื่อนลงมาที่ชั้น 1 จะเจอรูปปั้นชินจังและชิโระยืนคู่กัน น่ารักมากกก ย้อนไปด้านหลังอีกหน่อยจะมีโซนโชว์รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวเมืองคาสุกาะเบะ และรายละเอียดงานชินจัง มีพวกฝาท่อลายชินจังด้วยนะ

ออกจาก City Hall เราก็ออกเดินต่อไปที่ห้าง ITO YOKADO ซึ่งเป็นห้างที่ใช้เป็นต้นแบบของห้าง SATO KOKONO KADO ที่แม่และชินจังไปช็อปปิ้งเป็นประจำ ซึ่งเขาก็มีประกาศปิดตัวห้างไปตั้งแต่ปี 2567 เราไปครั้งนี้ปี 2568 ก็เข้าสู่ช่วงการปรับปรุงอาคารใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ร้าน Rudies Kasukabe
เป้าหมายสุดท้ายของทริปนี้ เป็นร้าน Rudies ซึ่งเป็นร้านขายเสื้อผ้า แนวสตรีทประจำเมือง โดยเขาจะออกสินค้าลายชินจังให้เราได้เลือกซื้อ

มีพวกเสื้อยืดแขนสั้น แขนยาว หมวก กระเป๋า พวงกุญแจแบบสุ่ม ร่ม ราคาอยู่ที่หลักพันเยน ถูกบ้างแพงบ้างคละๆ กันไป นอกจากนั้นก็มีชุดของทางแบรนด์ให้เลือกซื้อด้วย เสื้อผ้าของเขาจะเป็นแนว Hiphop / Street ลวดลายเก๋ไก๋ดี 

เสร็จแล้วก็เดินทางกลับ Ueno อีกครั้งด้วยรถไฟ สำหรับเราแล้วทริปมาเที่ยว Kasukabe บ้านเกิดชินจัง Shinchan ครั้งนี้โดยรวมสนุกดีเลยละ เรียกได้ว่าดีใจตั้งแต่รู้ว่าเป็นเมืองบ้านเกิดของชินจัง การ์ตูนที่เราตามอ่านตามดูมาหลายสิบปี ยิ่งพอได้ออกเดินเที่ยวรอบเมือง ได้ลองเก็บแสตมป์ก็ยิ่งสนุกเข้าไปอีก เสียดายตรงที่ฝนตกเลยทำให้เดินได้ยากหน่อย อีกอย่างจุดที่เราหวังให้มีของเยอะ ร้านใหญ่ๆ อย่าง Crayon Shin‑chan Studio ก็ไม่ได้จัดเต็มมากเท่าที่คิดไว้ แต่ก็เสียไปหลายเยนอยู่เหมือนกันนะ (ฮาาา) ใครเป็นสาวกของชินจัง ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่น อย่าลืมเพิ่มเมือง Kasukabe ไปได้เพื่อเติมฝันวัยเยาว์กันได้เลย
ใหม่กว่า เก่ากว่า