ชวนเพื่อนๆ แฟนๆ การ์ตูนเรื่องชินจัง Shin-chan ทุกคนมาเที่ยวเมืองบ้านเกิดของเจ้าน้องชินจัง เพื่อเติมเต็มความฝันวัยเยาว์กันให้ล้นหัวใจ เชื่อเหลือเกินว่าหลายๆ คนต้องโตมากับการดูการ์ตูนชินจังกันแน่ๆ วันนี้เราเลยมาเยี่ยมเยือนบ้านเกิดของชินจัง ที่ Kasukabe จังหวัดไซตามะ กันเป็นครั้งแรก จะมีอะไรให้เราดินเที่ยวบ้าง สนุกมากน้อยแค่ไหนมาดูกันเลยจ้า
ใช้เวลาเดินมาจากสถานีมายัง Kasukabe Information Center & Crayon Shin‑chan Stamp Rally ไม่เกิน 10 นาที เสียดายวันที่เราไปฝนตก เลยทำให้เดินยากไปหน่อย แต่หัวใจนดวงน้อยๆ ก็ยังมีความสุขมากอยู่ดี
มีใบสะสมแสตมป์ (รับฟรีคนละ 1 แผ่น) จากจุดนี้ และสามารถเก็บแสตมป์แรกได้ ณ จุดนี้เลย อันนี้เป็นกิมมิคที่ทำให้เราอยากเดินเที่ยวทั่วๆ เมือง โดยจะมีจุดสำหรับเก็บแสตมป์ประมาณ 6 จุด ได้แก่


จุดที่เราจะไปคือ BLOOMY'S Cafe เพราะในคาเฟ่แห่งนี้มีที่เก็บแสตมป์อีก 1 จุด สำหรับใครที่อยากแวะทานเครื่องดื่มกาแฟ ขนมปัง และอาหารมื้ออิ่มๆ ได้เช่นเดียวกัน บรรยากาศด้านในคาเฟ่สวยดีเลยละ
วิธีเดินทางไป Kasukabe บ้านเกิดชินจัง
ส่วนตัวเราออกเดินทางไปยังเมือง Kasukabe จากสถานี Ueno ซึ่งก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางยอดนิยมเช่นเดียวกัน โดยเลือกขึ้นรถไฟสาย Tokyo Metro Hibiya Line จาก Ueno → Kita‑Senju ใช้เวลาในการเดินทางตรงประมาณ 10-15 นาที เมื่อมาถึงสถานี Kita‑Senju ให้เดินลงไปด้านล่างเพื่อเปลี่ยนไปใช้รถไฟสาย Tobu Skytree Lineเดินลงมาด้านล่าง ให้มองหาป้ายที่มีคำว่า Kasukabe ในภาพคือ เลข 1-2 สีน้ำเงิน โดยเราจะขึ้นรถไฟมุ่งตรงไปยัง Kasukabe ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-35 นาที รวมค่าใช้จ่ายทั้งมดประมาณ 610 เยน/คนมาถึงแล้วจ้าสถานี Ueno เราจะเห็นรายละเอียดของชินจังตั้งแต่เมื่อครั้งลงสถานีเลย มีเสียงเพลงประจำตัวของชินจังดังเมื่อถึงสถานี ส่วนที่ป้ายรถไฟก็จะมีชินจังและชิโระ เกาะอยู่ด้วย จากที่เราเห็นภาพของเพื่อนๆ เขาจะเปลี่ยนตัวละครที่มาเกาะไปเรื่อยๆ ด้วยนะ ใส่ใจทุกรายละเอียดมากๆเราเลือกออกทางออก East Exit โดยมีจุดมุ่งหมายแรกคือ Kasukabe Information Center & Crayon Shin‑chan Stamp Rally เพราะที่นี่จะเป็นเหมือนที่ให้ข้อมูลนักท่องเที่ยว และมีแผ่นสะสมแสตมป์ให้เราเริ่มเก็บไปได้ด้วย
![]() |
มีภาพเซตโปสเตอร์ขนาดใหญ่ด้านหน้า |
Kasukabe Information Center & Crayon Shin‑chan Stamp Rally เปิดทำการ 09.00-16.30 น. บรรยากาศภายในเป็น office ขนาดไม่ใหญ่มาก โซนด้านซ้ายเต็มไปด้วยของเกี่ยวกับชินจัง ทั้งงานภาพร่าง โซนขายของฝากต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่จะแนะนำเส้นทางการเดินเที่ยวในเมือง เพื่อชมเมืองและล่าแสตมป์ไปด้วย เจ้าหน้าที่ในศูนย์ฯ คือน่ารักมาก สื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ และช่วยถ่ายภาพให้เราด้วย
รูปปั้นชินจังและฮิมาวาริ ที่เราสามารถถ่ายภาพร่วมได้เป็นจุดแรก ![]() |
สามารถซื้อโปสการ์ดลายเฉพาะได้ |
มีใบสะสมแสตมป์ (รับฟรีคนละ 1 แผ่น) จากจุดนี้ และสามารถเก็บแสตมป์แรกได้ ณ จุดนี้เลย อันนี้เป็นกิมมิคที่ทำให้เราอยากเดินเที่ยวทั่วๆ เมือง โดยจะมีจุดสำหรับเก็บแสตมป์ประมาณ 6 จุด ได้แก่
- Kasukabe Tourist Info Center
- Kasukabe Local History Museum
- จุดพักริมทาง "Shōwa" (Michi-no-Eki Shōwa) มีร้านของฝากและอาหารท้องถิ่น
- ห้องสมุดเมือง Kasukabe
- Underground Temple (G-Cans)
- LaLa Garden (ชั้น 3 – Studio)
เมื่อออกจากจุดแรก เราก็มุ่งหน้าเดินตรงไปยัง Kasukabe Local History Museum หรือพิพิธภัณฑ์กลางเมือง โดยเขาเปิดให้เข้าฟรี และมีจุดเก็บแสตมป์ที่ด้านในอาคารด้วย
ภายในมีการจัดโชว์ประวัติศาสตร์ วัตถุโบราณของเมือง Kasukabe เอาไว้ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว แต่เสียดายที่มีรายละเอียดภาษาอังกฤษให้อ่านค่อนข้างน้อย ส่วนตรงมุมทางออกจะงานวาดของชินจังอยู่ด้วย

จากนั้นเราก็ออกเดินเลียบจากฝั่ง Kasukabe Local History Museum มาเรื่อยๆ แล้วเดินข้ามถนนเพื่อขึ้นสะพานไปยังถนนฝั่งเดียวกันกับ LaLa Garden ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าที่ตั้งอยู่ในเมืองคาสุคาเบะ โดยห้างจะเปิดทำการตั้งแต่ 10.00-20.00 น. Highlight สำคัญของห้างแห่งนี้คือ Crayon Shin‑chan Studio ร้านขายสินค้า และฉายภาพยนตร์ของชินจัง ที่ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของตัวห้าง
ถึงห้างก็ขั้นบันไดเลื่อนขึ้นมาที่ชั้น 3 จะมีภาพชินจังขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า ด้านในจะมีรูปปั้นเกี่ยวกับชินจังเยอะมาก ทั้งรอยปั๊มมือ-เท้า ของตัวละครต่างๆ รูปปั้นตรูดส์ทองของชินจัง โบจังน้ำมูกเย้อย มีมุมถ่ายภาพประมาณหนึ่ง
พร้อมด้วยโซนขายของฝากต่างๆ แต่ในใจแอบคิดว่า Crayon Shin‑chan Studio จะมีขนาดใหญ่ และมีสินค้าลิขสิทธิ์มากกว่านี้สักหน่อย รายการสินค้าที่นี่จะเป็นแนวกิ้ฟท์ช็อป อุปกรณ์การเรียน เหมือนจะมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นน้องๆ หนูๆ นักเรียน ประมาณนั้น
มีรูปปั้นครอบครัวของชินจังด้วย เติมเต็มหัวใจมากกก ปล. ที่นี่มีแสตมป์ด้วยนะ แต่เราหาไม่เจอ!!โซนด้านหลังจะเป็นที่หนีบตุ๊กตา (แบบจ่ายเงิน) มีสินค้าของชินจังให้หนีบประมาณ 3-4 ตู้ เราว่าน้อยไปหน่อย ส่วนตู้อื่นๆ จะเป็นตุ๊กตาทั่วๆ ไป เลยแอบเสียดายว่าถ้ามีสินค้าชินจังให้เรามาหยิบเยอะกว่านี้น่าจะเอ็นจอยกับการเสียเงินจับตุ๊กตามากขึ้นไปอีก เดินเล่นจนทั่วพร้อมหยิบตุ๊กตาเล็กๆ น้อยๆ ประมาณ 30-40 นาที เราก็ออกจาก Crayon Shin‑chan Studio แล้วแวะหาทานมื้อเที่ยงในห้าง LaLa Garden เสียหน่อย
KASUKABE CITY HALL เป็นหมุดหมายถัดไปที่เราจะไปกันต่อ ความดีงามคือทุกที่ก็จะเดินถึงกันได้ง่ายๆ ใน City Hall จะมีรายละเอียดของเมืองให้เราได้ดู ชั้น 2 จะเป็นเหมือนโซน Office วันที่เราไปเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ คนทำงานเลยน้อย
จุดที่เราจะไปคือ BLOOMY'S Cafe เพราะในคาเฟ่แห่งนี้มีที่เก็บแสตมป์อีก 1 จุด สำหรับใครที่อยากแวะทานเครื่องดื่มกาแฟ ขนมปัง และอาหารมื้ออิ่มๆ ได้เช่นเดียวกัน บรรยากาศด้านในคาเฟ่สวยดีเลยละ
ออกจากคาเฟ่แล้ว สามารถเดินขึ้บันไดไปที่ชั้น 2 จะเห็นภาพวาดขนาดใหญ่ของครอบครัวชืนจัง เป็นต้นที่ฮิมาวาริแรกเกิด จากนั้นลงบันไดเลื่อนลงมาที่ชั้น 1 จะเจอรูปปั้นชินจังและชิโระยืนคู่กัน น่ารักมากกก ย้อนไปด้านหลังอีกหน่อยจะมีโซนโชว์รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวเมืองคาสุกาะเบะ และรายละเอียดงานชินจัง มีพวกฝาท่อลายชินจังด้วยนะ
ออกจาก City Hall เราก็ออกเดินต่อไปที่ห้าง ITO YOKADO ซึ่งเป็นห้างที่ใช้เป็นต้นแบบของห้าง SATO KOKONO KADO ที่แม่และชินจังไปช็อปปิ้งเป็นประจำ ซึ่งเขาก็มีประกาศปิดตัวห้างไปตั้งแต่ปี 2567 เราไปครั้งนี้ปี 2568 ก็เข้าสู่ช่วงการปรับปรุงอาคารใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เป้าหมายสุดท้ายของทริปนี้ เป็นร้าน Rudies ซึ่งเป็นร้านขายเสื้อผ้า แนวสตรีทประจำเมือง โดยเขาจะออกสินค้าลายชินจังให้เราได้เลือกซื้อ
มีพวกเสื้อยืดแขนสั้น แขนยาว หมวก กระเป๋า พวงกุญแจแบบสุ่ม ร่ม ราคาอยู่ที่หลักพันเยน ถูกบ้างแพงบ้างคละๆ กันไป นอกจากนั้นก็มีชุดของทางแบรนด์ให้เลือกซื้อด้วย เสื้อผ้าของเขาจะเป็นแนว Hiphop / Street ลวดลายเก๋ไก๋ดี
เสร็จแล้วก็เดินทางกลับ Ueno อีกครั้งด้วยรถไฟ สำหรับเราแล้วทริปมาเที่ยว Kasukabe บ้านเกิดชินจัง Shinchan ครั้งนี้โดยรวมสนุกดีเลยละ เรียกได้ว่าดีใจตั้งแต่รู้ว่าเป็นเมืองบ้านเกิดของชินจัง การ์ตูนที่เราตามอ่านตามดูมาหลายสิบปี ยิ่งพอได้ออกเดินเที่ยวรอบเมือง ได้ลองเก็บแสตมป์ก็ยิ่งสนุกเข้าไปอีก เสียดายตรงที่ฝนตกเลยทำให้เดินได้ยากหน่อย อีกอย่างจุดที่เราหวังให้มีของเยอะ ร้านใหญ่ๆ อย่าง Crayon Shin‑chan Studio ก็ไม่ได้จัดเต็มมากเท่าที่คิดไว้ แต่ก็เสียไปหลายเยนอยู่เหมือนกันนะ (ฮาาา) ใครเป็นสาวกของชินจัง ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่น อย่าลืมเพิ่มเมือง Kasukabe ไปได้เพื่อเติมฝันวัยเยาว์กันได้เลย