อีกแค่เพียงไม่กี่อึดใจ บรรยากาศของเทศกาลคริสต์มาส (Christmas) ก็ใกล้เข้ามาอีกแล้ว บรรยากาศอันแสนอบอุ่น ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส มีต้นคริสต์มาสประดับประดาไปจนทั่วเมือง โดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้า ร้านค้าต่างๆ ของประเทศไทย ที่ก็ร่วมใจตกแต่งสัญลักษณ์ วันคริสต์มาส กันอย่างจริงจังในทุกๆ ช่วงปลายปี แต่เพื่อนๆ เคยสงสัยกันไหมคะว่า สัญลักษณ์ วันคริสต์มาส มีอะไรบ้าง? แต่ละอย่างสื่อถึงอะไร ทำไมต้องมี เช่น ทำไมต้องมีต้นคริสต์มาส ดวงดาวบนยอดต้นสน ลูกกวาดรูปไม้เท้า (Candy Cane) พวงมาลัยคริสต์มาส (Wreath) สำคัญอย่างไร? มาดูคำตอบในบทความนี้กันได้เลย
รวมสัญลักษณ์ วันคริสต์มาส Christmas สิ่งของ วันคริสต์มาส มีอะไรบ้าง
เรามาลองคิดกันดูก่อนดีกว่าสัญลักษณ์ที่เราเจอบ่อยๆ ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสมีอะไรบ้าง เท่าที่เห็นกันเป็นประจำ ได้แก่
- ต้นคริสต์มาส (Christmas Tree)
- ดาวคริสต์มาส (Christmas Star)
- ต้นฮอลลี่ (Holly)
- ซานตาคลอส (Santa Claus)
- กวางเรนเดียร์ (Reindeer)
- เอลฟ์ (Elf)
- กระดิ่ง (Bells)
- ถุงเท้าคริสต์มาส (Christmas Stocking)
- ลูกกวาดรูปไม้เท้า (Candy Cane)
- มิสเซิลโทล (Mistletoe)
- พวงมาลัยคริสต์มาส (Wreath)
- ขนมปังขิง (Gingerbread)
โดยสัญลักษณ์เหล่านี้ที่เราสามารถพบได้ในวันคริสต์มาส ต่างมีความหมายเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป สัญลักษณ์ วันคริสต์มาส Christmas แต่ละชิ้นมีที่มาที่ไป หรือมีความหมายอย่างไรบ้างมาดูกันต่อได้เลย
- ต้นคริสต์มาส (Christmas Tree)
ที่เรามักเห็นกันเป็นประจำคือต้นคริสต์มาสจากต้นสน ซึ่งมีความโดดเด่นคือสามารถยืนต้นและออกใบสีเขียวสดได้ถึงแม้จะเข้าสู่ช่วงที่มีอากาศอันหนาวเหน็บมากเพียงใดก็ตาม เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของ ชีวิตอันนิรันดร์ และความหวังที่ไม่ดับสูญไป นอกจากนี้ด้วยรูปทรงสามเหลี่ยมของต้นคริสต์มาส ยังมีแนวคิดที่ว่ามีความเชื่อมโยงกับพระตรีเอกภาพ ในศาสนาคริสต์อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ต้นคริสต์มาสยังเปรียบเป็นศูนย์รวมของสมาชิกในบ้าน เพราะเมื่อเข้าสู่ช่วงวันที่ 25 ธันวาคม ของปี ก็จะมีการจัดตกแต่งต้นคริสต์มาสในบ้าน โดยทุกๆ คนจะร่วมกันตกแต่งกันอย่างสวยงาม ถือเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่ทุกคนได้มีความสุขร่วมกัน
- ดาวคริสต์มาส (Christmas Star)
ดวงดาวสีเหลืองสดหรือสีเงิน ที่มักถูกประดับเอาไว้บนยอดของต้นคริสต์มาส เป็นสิ่งที่สื่อถึงดาวแห่งเบธเลเฮม ที่นำพาพวกโหราจารย์ไปพบพระเยซูที่เมืองเบธเลเฮม ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของการเปล่งประกาย โชคลาภ แสงนำทางแห่งความหวัง ความสำเร็จ และโอกาสของการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งด้วยนั่นเอง
- ต้นฮอลลี่ (Holly)
เป็นไม้ทรงพุ่มเตี้ย เชื่อกันว่าผลสีแดงสดของมันสื่อถึงหยดเลือดของพระเยซูที่ไหลอาบไม้กางเขน แทนความรักและความเสียสละของพระเจ้า ทั้งนี้ยังมีความหมายใกล้เคียงกันกับต้นคริสต์มาส เพราะใบสีเขียวสดของต้นฮอลลี่ในช่วงฤดูหนาว ยังเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตที่ยืนยาว
- ซานตาคลอส (Santa Claus)
ชายแก่วัยกลางคน ไว้หนวดเคราสีขาวเฟิ้ม ผู้อาศัยอยู่ที่ขั้วโลกเหนือ ใส่ชุดสีแดงสดขอบขาว มีต้นกำเนิดมาจากตำนานของ นักบุญนิโคลัส ผู้ใจดีที่มอบของขวัญให้แก่เด็กและคนยากจน ทำให้ลุงซานต้ากลายเป็นสัญลักษณ์ของการให้ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และความสุขในช่วงเทศกาลปลายปี ยิ่งไปกว่านั้นลุงซานต้ายังเป็นจินตนาการที่เด็กๆ ทั่วโลกต่างก็ชื่นชอบและเฝ้ารอการมาของเขาในทุกๆ ปีอีกด้วยละ
- กวางเรนเดียร์ (Reindeer)
สัตว์ลากเลื่อนคู่กายของลุงซานต้า ที่พร้อมทะยานไปบนฟ้าไกลด้วยพลังแห่งผงเวทมนตร์ เพื่อแจกของขวัญให้กับเหล่าเด็กๆ ในคืนคริสต์มาสอีฟ (Christmas Eve) มีต้นกำเนิดมาจากกลอนที่ชื่อ "A Visit from St. Nicholas" โดยกวางเรนเดียร์มีทั้งหมด 9 ตัว โดยตัวที่โดดเด่นมีชื่อว่า "รูดอล์ฟ" กวางจมูกแดงที่มักโดนกวางตัวอื่นๆ คอยล้อเลียนและกีดกัน
- เอลฟ์ (Elf)
ภูติตัวจิ๋ว ตัวเล็ก ใบหูแหลม และมีพลังพิเศษ เอลฟ์เปรียบเสมือนผู้ช่วยคนสำคัญของลุงซานต้า ทำหน้าที่ในการผลิต จัดเรียง และขนส่งของขวัญในโรงงาน อีกทั้งเอลฟ์เหล่านี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของความสนุกสนาน พลัง และความมหัศจรรย์ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสอีกด้วย
- กระดิ่ง (Bells)
เสียงกระดิ่งที่ดังกรุ๊งกริ๊งไปจนทั่ว และกระดิ่งสีทองที่ประดับประดาอยู่บนต้นคริสต์มาสเป็นสัญลักษณ์ของ การประกาศข่าวดีและความยินดี เนื่องในวันประสูติของพระเยซู ทั้งยังเป็นตัวแทนของช่วงเวลาของการเฉลิมฉลอง และเสียงแห่งความสุขสันต์ในช่วงวันคริสต์มาสอีกด้วย
- ถุงเท้าคริสต์มาส (Christmas Stocking)
ตำนานที่ถูกเล่าขานกันมาแสนนานว่านักบุญนิโคลัส หรือซานต้าคลอส จะเดินทางเข้าสู่บ้านหลังต่างๆ ทางปล่องไฟ และมอบของขวัญเหล่านั้นไว้ในถุงเท้าเปล่าที่ห้อยเรียงรายอยู่รอบๆ บ้างก็ว่าเป็นตำนานการมอบเงินเพื่อให้ความช่วยเหลือครอบครัวของชายยากจน ที่มีลูกสาว 3 คน ซานต้าคลอสต้องการมอบเงินในถุงให้แก่เขา แต่ถุงเงินที่โยนเข้าไปดันตกไปอยู่ใกล้ๆ กับถุงเท้าที่ตากไว้บริเวณปล่องไฟพอดี จึงกลายเป็นตำนานว่าถุงเท้าที่ปล่องไฟจะเป็นสถานที่ที่ได้รับของขวัญจากซานต้าคลอส
- ลูกกวาดรูปไม้เท้า (Candy Cane)
ลูกกวาดทรงไม้เท้า สีขาวสลับแดงที่เราเห็นได้บ่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงคริสต์มาสนั้นมีความหมายมากกว่าที่เห็น กล่าวกันว่ารูปทรงไม้เท้าของลูกกวาดนี้เพื่อระลึกถึง ไม้เท้าของคนเลี้ยงแกะ (Shepherd) หนึ่งในอาชีพเก่าแก่ของชาวยุโรป สีแดงสื่อถึง เลือดซึ่งเป็นความเสียสละของพระเยซู สีขาวสื่อถึงความบริสุทธิ์ และนอกจากนี้เมื่อมองลูกกวาดทรงไม้เท้าแบบกลับหัว จะเป็นตัว J ซึ่งสอดคล้องกับชื่อของ Jesus อีกด้วย
- มิสเซิลโทล (Mistletoe)
มิสเซิลโทล ที่เป็นสัญลักษณ์ของรักนิรันดร์ นิยมใช้ตกแต่งในวันคริสต์มาส แต่ความจริงแล้วเป็นพืชกาฝากที่มีความเก่าแก่ โดยมิสเซิลโทลเป็นไม้ทรงพุ่มสีเขียว มีผลเล็กๆ สีแดง อาศัยและเติบโตอยู่บนต้นไม้ต้นอื่น ตำนานเกี่ยวกับมิสเซิลโทลมีค่อนข้างเยอะ แต่มีความเชื่อในทางเดียวกันว่าหากได้จุมพิตกันได้ใต้ต้นมิสเซิลโทลในช่วงคริสต์มาส จะช่วยอวยชัยให้ความรักนั้นเป็นนิรันดร์
- พวงมาลัยคริสต์มาส (Wreath)
พวงมาลัยที่นิยมใช้ประดับประดาบ้าน อาคาร สถานที่ต่างๆ ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส โดยพวงมาลัยคริสต์มาส (Wreath) มีลักษณะเป็นทรงกลม มีรูตรงกลาง ประกอบด้วยใบฮอลลี่ กิ่งสนและลูกสน และโบว์สีแดง ด้วยรูปทรงกลมจึงหมายถึงจุดเริ่มต้นที่ไม่มีวันสิ้นสุด รักอันเป็นนิรันดร์ และใบไม้สีเขียวของใบฮอลลี่ยังสื่อถึง ชีวิตที่นิรันดร์อีกด้วย
- ขนมปังขิง (Gingerbread)
ขนมชนิดแรกๆ ที่ถูกเสิร์ฟในช่วงเทศกาลคริสต์มาส โดยควีนอลิซาเบธที่ 1 ที่พระองค์ต้องการต้อนรับเหล่าแขกเหรื่ออย่างสมเกียรติ ทำให้ขนมปังขิงกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ชินตาของผู้คนในช่วงเทศกาลคริสต์มาส อีกทั้งด้วยรสชาติที่อ่อนหวานและอบอุ่นจากส่วนผสมอย่างขิง จึงเป็นขนมที่เหมาะสมกับคริสต์มาสในช่วงหน้าหนาว และในบางพื้นที่ยังมีความเชื่อว่าขนมปังขิงยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและความโชคดีอีกด้วย
- ลูกบอลประดับ (Baubles)
เครื่องประดับทรงกลมที่นิยมนำมาใช้ประดับบนต้นคริสต์มาส โดยในสมัยก่อนนิยมใช้ผลแอปเปิ้ลมาแขวนบนต้นคริสต์มาส โดยผลแอปเปิ้ลนับเป็นผลไม้แห่งสวนเอเดน ในพระคัมภีร์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ ความเป็นมนุษย์ ความรู้ และการเริ่มต้นเรื่องราวของมนุษยชาติ ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะเปลี่ยนมาใช้ลูกบอลประดับหลากสี โดยสีแดง สื่อถึงเลือดของพระเยซู สีเขียว คือ ชีวิตที่เป็นนิรันดร์ สีขาว คือ ความบริสุทธิ์ และสีทอง สื่อถึงดวงดาวแห่งเบธเลเฮม
และนี่ก็เป็น สัญลักษณ์ วันคริสต์มาส Christmas ที่พบได้บ่อยๆ ในช่วงเทศกาลอันแสนสุขในช่วงปลายปีนี้ เห็นได้เลยว่าสัญลักษณ์แต่ละชิ้นล้วนมีความหมายที่แอบซ่อนอยู่ ไม่ใช่แค่เพียงการประดับประดาทั่วๆ ไป เทศกาลคริสต์มาสนี่เป็นเทศกาลที่เต็มไปด้วยรายละเอียดที่น่าสนใจมากมายเลยจริงๆ













