อาหารเป็นพิษ ควรกินอะไร? อาการของอาหารเป็นพิษ เกิดจากอะไร กี่วันหาย?

เชื่อเหลือเกินว่าหลายๆ คนอาจเคยต้องพบประสบการณ์อาหารเป็นพิษ (Food Poisoning) กันมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะในเมืองร้อนอย่างประเทศไทยที่อาจเป็นตัวเร่งให้อาหารเน่าหรือบูดไวมากกว่าปกติ ทำให้ในมื้ออาหารนั้นมีเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือสารพิษจากจุลินทรีย์แฝงอยู่ด้วย และเมื่อเราทานอาหารที่ไม่ได้ปรุงสดใหม่ หรือวางทิ้งไว้นานๆ หลายชั่วโมงก็อาจกระตุ้นให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ ส่งผลให้มีอาการปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย มีไข้ หนาวสั่น ถ่ายเหลว ถ่ายไม่หยุด หรือในรายที่รุนแรงก็อาจทำให้เกิดภาวะช็อก หรือหมดสติได้ อาหารเป็นพิษ ควรกินอะไร? อาการของอาหารเป็นพิษ เกิดจากอะไร กี่วันหาย? มาดูคำตอบไปพร้อมกันได้ในบทความนี้

อาหารเป็นพิษ เกิดจากอะไร?

สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดภาวะอาหารเป็นพิษ เกิดจากการรับประทานอาหารที่ไม่สะอาดหรือมีเชื้อบางอย่างปนเปื้อนอยู่ด้วย โดยสาเหตุที่พบได้บ่อย ได้แก่

เชื้อแบคทีเรีย เช่น Salmonella, E. coli, Staphylococcus aureus
ไวรัส เช่น Norovirus
พยาธิ หรือเชื้อจุลินทรีย์บางชนิด
สารพิษทีเ่กิดจากอาหารที่บูดเสีย หรือปรุงไม่สุก
สารพิษตกค้างในวัตถุดิบ เช่น ฟอร์มาลีน ยาฆ่าแมลง หรือโลหะหนัก
ภาชนะ อุปกรณ์ หรือมือ ที่ไม่สะอาดระหว่างการเตรียมอาหาร

อาหารเป็นพิษ แสดงอาการในกี่ชั่วโมง?

ระยะเวลาในการแสดงอาการของภาวะอาหารเป็นพิษ ช้า-เร็ว รุนแรงมากน้อย ขึ้นอยู่กับสาเหตุ โดยสามารถมีอาการได้ตั้งแต่ภายใน 1-48 ชั่วโมงหลังจากรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม

อาการของอาหารเป็นพิษ เป็นยังไง?

อาการทั่วไปที่พบได้บ่อย มีดังนี้

คลื่นไส้ อาเจียน
ปวดท้อง ท้องเสีย อาจถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำ
ปวดบิดท้อง แน่นท้อง
มีไข้ หนาวสั่น
อ่อนเพลีย ไม่มีแรง

และนอกจากนี้ ในบางรายอาจมีอาการรุนแรง เช่น ถ่ายเป็นมูกเลือด หรืออาเจียนมากจนเสี่ยงขาดน้ำ หากอาการรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หรือไม่ดีขึ้นควรรีบพบแพทย์ทันที

อาหารเป็นพิษ กี่วันหาย?

โดยทั่วไป อาการอาหารเป็นพิษมักดีขึ้นและหายได้เองภายใน 1-3 วัน หากเป็นอาการที่ไม่รุนแรง แต่ในบางกรณี อาจใช้เวลานาน 5-7 วันจึงจะหายดี ขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อหรือสารพิษปนเปื้อนที่ได้รับ อายุ และสภาวะสุขภาพของแต่ละบุคคล