ทริปเที่ยวญี่ปุ่นรอบนี้ วางแผนตั้งใจหลีกหนีเมืองกันแบบสุดๆ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการขึ้นไปชมวิว เจแปน แอลป์ ตอนใต้ (Southern) จากความสูงที่ระดับ 2,612 km. จากระดับน้ำทะเล และแวะนอนบนโรงแรมที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นอย่างโรงแรม Senjojiki ที่บอกเลยว่าวิวสวย และมีความส่วนตัวดีมากๆ ใครอยากไปใกล้ชิดธรรมชาติ ห้ามพลาด
เริ่มเดินทางไป Komagatake ropeway จังหวัดนากาโนะ
เริ่มแรกจากการนั่งรถไฟ JR มาลงที่สถานี Komagane บรรยากาศริม 2 ฝั่งทางก็จะหลุดจากความเป็นเมืองมาเรื่อยๆ มีต้นไม้ บ้านเรือนหลังเล็กๆ ทั้ง 2 ฝั่ง เมื่อมาถึงสถานีให้เดินออกไปแล้วเลี้ยวซ้ายจะเจอป้ายรถบัส ที่มีเป้าหมายการเดินทางจากสถานีรถไฟ Komagane ไปยัง Komagatake Ropeway โดยรอบรถบัสจะมีทุกๆ 30 นาที เริ่มวิ่งตั้งแต่ 05.00-16.00 น.
ก่อนจะไปถึง Komagatake ropeway มีที่แวะเที่ยวก่อนขึ้นเขา คือ Suga No Dai Bus center Parking ซึ่งเป็นจุดพักรถขนาดใหญ่ ข้างๆ กันจะมี Komagane's Farm ค่าเดินทางประมาณ 380 เยนจากสถานีรถไฟ
อาคารด้านหน้าสุดจะเป็นร้านขายของฝากขนาดใหญ่ และมีร้านอาหารอยู่ที่ชั้น 2 (แต่วันที่เราไปมีการปิดปรับปรุงร้านพอดี เลยอด) ของฝากมีเยอะเชียว ปล.ใครที่มีกระเป๋าเดินทางมาด้วยจะมี Coin lockers อยู่ด้านข้างของตึกแรก
เดินเลาะมาด้านหลังจะเป็นร้านขนมปัง นม ของคาวหวานต่างๆ ของทางฟาร์ม อาหารขึ้นชื่อของที่นี่ คือ หมูทอดเสียบไม้ชุบซอสสูตรเข้มข้น (ซอสคัตสึ) ที่มีชื่อเสียงในเมือง Komagane ไก่รมควันสูตรพิเศษของร้าน Contry★Cafe ที่ทำจากไก่เนื้อคุณภาพดี รมควันอย่างพิถีพิถัน และมีขายในร้านเดียวกัน
อีกมุมของร้านมีไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟด้วย มีทั้งรสนม รสชีส มีแบบพรีเมียมด้วย
เห็นแล้วก็สั่งมาลองกินด้วย ส่วนตัวเราว่าเป็นคัตสึเสียบไม้ที่ไม่ได้ต่างไปจากที่เรากินมากนัก และที่วางขายไว้เป็นแบบที่ทอดไว้แล้ว มันเลยทำให้เสียรสชาติไปหน่อยค่ะ แค่เนื้อหมูก็ชิ้นใหญ่ดี มีเนื้อแดงเยอะ
อีกอย่างเราสั่งมาเป็นขนมปังเนื้อนุ่มๆ สอดไส้ครีมนม ชิ้นใหญ่ รสชาติกลางๆ
หลังกินเสร็จเราก็ไปเดินเล่นที่ Komagane Kogen Sabo Field ที่นี่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ต้นไม้ และมีฝายชะลอน้ำขนาดใหญ่ บรรยากาศสดชื่นมากๆ แต่ตอนที่เราไปเดินคนค่อนข้างน้อย
เดินเล่นเสร็จ ก็มานั่งรอรถบัสเพื่อไปยัง Komagatake Ropeway รอบรถบัสก็จะมาทุกๆ 30 นาทีเช่นเดียวกัน ครั้งนี้เราจะไปลงสุดสาย โดยเป็นการนั่งรถบัสขึ้นเขาชัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที นับจากจุดที่เราแวะพัก ไปกันต่อยัง Komagatake Ropeway
ถึงที่หมายกันแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือเดินเข้าไปด้านในเพื่อซื้อตั๋วสำหรับขึ้น Komagatake Ropeway
ราคาตั๋วสำหรับผู้ใหญ่แบบ One Way อยู่ที่ 1,370 เยน/คน ส่วนแบบ Round Trip อยู่ที่ 2,540 เยน/คน (ใช้ได้ 3 วัน)
 |
ตารางเวลา Ropeway และรถบัส |
ในอาคารจำหน่ายตั๋ว มีโซนขายของฝากเล็กๆ น้อยๆ ด้วย ขากลับสามารถแวะซื้อติดไม้ติดมือกันได้
ถึงรอบต้องขึ้น Ropeway พนักงานจะทยอยให้เราขึ้น Ropeway ระยะทางในการเดินทางครั้งนี้ ประมาณ 2.3 กม. ใช้เวลาประมาณ 7–8 นาที โดย Komagatake Ropeway เป็น Ropeway แห่งแรกในญี่ปุ่นอีกด้วยละ
 |
ชมวิวธรรมชาติสองฝั่งได้แบบเต็มตา
|
 |
เดือน พฤษภาคม ปีนี้ หิมะยังเหลืออยู่มาก |
แล้วเราก็เดินทางมาถึงด้านบน อยู่ที่ความสูง 2,612 km จากระดับน้ำทะเล ตอนที่เราไปเป็นช่วงบ่ายๆ จำนวนนักท่องเที่ยวเบาบางตา วิวธรรมชาติสวยๆ เจแปน แอลป์ ก็กลายเป็นของเรา อากาศด้านนอกอยู่ที่ 10 กว่าๆ กำลังดี
 |
วิวสวยมากกกก
|
มีศาลเจ้าขนาดเล็กอยู่ด้วย เราสามารถเดินเข้าไปบูชาได้ด้วย สำหรับใครที่ขึ้นมาเดินเขาในช่วงที่มีหิมะ ก็สามารถเดินได้ แต่จะอนุญาตเฉพาะผู้ที่มีอุปกรณ์เดินหิมะอย่างครบถ้วนเท่านั้น
 |
รายละเอียดบนยอดเขา
|
ด้านในอาคารมีตู้กดน้ำ ทั้งแบบร้อนและเย็น มีร้านขายของฝาก และห้องน้ำที่สะอาดสะอ้านด้านหลัง
เดินเล่นสักพักก็รู้สึกหิวหน่อยๆ เลยแวะมาสั่งอาหารและเครื่องดื่มที่ cafe ของโรงแรม Senjojiki ราคาที่นี่ก็จะสูงกว่าปกติเล็กน้อย
เราสั่งมาเป็นโรตีนาน แป้งร้อนๆ ด้านนอกหนา ด้านในนุ่ม กินคู่กับซอสแกงกะหรี่ และแกงอะไรอีกสักอย่างอร่อยดี
อีกชิ้นเป็น Corn Dog ทำมาสดใหม่ อร่อยใช้ได้
ถึงเวลาก็เช็กอินเข้าที่พัก ห้องนอนของโรงแรมจะมี 2 แบบ คือ แบบที่มีห้องน้ำในตัว กับห้องที่ต้องใช้ห้องน้ำรวม เราจองแบบห้องที่มีห้องน้ำส่วนตัว ราคาคืนละประมาณ 9,000 บาท (ราคาแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงฤดูกาล เช็กราคาได้ที่นี่)
บรรยากาศภายในห้องมีความเป็นห้องพักสไตล์ญี่ปุ่นมากๆ ห้องปูด้วยเสื่อทาทามิ มีโต๊ะเตี้ยกลางห้อง และฟูกนอนแบบปูพื้น มุมห้องมีโทรทัศน์เครื่องเล็กๆ ตู้เซฟ มีเครื่องทำความร้อนให้ด้วย
ริมหน้าต่างมีโต๊ะและที่นั่ง หน้าต่างด้านหลังเปิดได้ ห้องของเราเป็นวิวภูเขาด้านหลังสวยมาก
ห้องน้ำก็ดูโอเค ขนาดกะทัดรัด มีสบู่ และแชมพูให้ ส่วนเครื่องอำนวยความสะดวกก็มีให้หมดทั้งผ้าเช็ดตัว แปรงสีฟัน ยาสีฟัน หวี ไดร์เป่าผม คือครบครันมากๆ
ชุดยูกาตะสามารถหยิบได้จากโซนของรวม
นอกจากนี้มของใช้โซนรวมอีกหลายอย่าง ทั้งตู้เย็น ไมโครเวฟ กาต้มน้ำร้อนและกาน้ำ เรียกได้ว่าสะดวก ครบครันดี
 |
เดินเล่นชมวิวสวยๆ หลังนักท่องเที่ยวกลับ
|
 |
เราชอบบรรยากาศมาก สวย สงบ อากาศเริ่มเข้าเลขตัวเดียว
|
 |
วิวที่นั่งโซนคาเฟ่ ด้านนี้ดีมาก ตอนเช้าๆ มองเห็น Mr.Fuji |
ถึงเวลาทานอาหารเย็น เดินไปบอกเลขห้องกับพนักงานที่โซนครัว เขาจะเตรียมที่นั่งและอาหารเอาไว้ให้เสร็จสรรพ
 |
รายการอาหารเป็นคอร์ส และสามารถสั่งเพิ่มได้
|
 |
จัดเสิร์ฟตามจำนวนผู้เข้าพัก
|
 |
จานร้อนจะเป็นสเต๊กเนื้อ อร่อยเลย
|
อีกโซนจะเป็นบุฟเฟต์ มีข้าวญี่ปุ่น ซุปข้าวโพด และมิโสะซุป ตักได้ เติมได้ตามใจชอบ
กินเสร็จก็ถึงเวลาเข้าห้องพัก อาบน้ำล้างตัว แล้วเข้านอน อากาศในห้องไม่เย็นมาก ประกอบกับมีฟูกนอนแบบฟูตงหนาๆ เลยหลับสบายสุดๆ ไปเลย
ตื่นเช้ามา ตระเตรียมให้พร้อมก็ลงมาเดินเล่น รับวิวสวยๆ ยามเช้า มุมนี้สามารถเห็นฟูจิซังพร้อมกับพระอาทิตย์ขึ้นได้ โดยมีชื่อเรียกว่า Golden Fuji (แต่เราตื่นมาดูไม่ทัน 555+) แต่ก็ยังสามารถมองเห็นลุงฟูจิอยู่ เสร็จแล้วเราก็ไปทานมื้อเช้าก่อนกลับกัน!!
 |
ชุด Breakfast รสชาติดีเลยละ |
 |
มีมุมบุฟเฟต์เหมือนเดิม ตอนเช้าจะมีขนมปังเพิ่มเข้ามาด้วย |
 |
เติมกาแฟดำ 1 แก้ว ให้ร่างกายพร้อมเดินทาง |
กินข้าวเสร็จ พอเวลาประมาณ 8 โมงกว่าๆ ก็ถึงเวลา Ropeway รอบแรก เช็กเอาท์เสร็จก็เตรียมตัวเดินทางกลับ ขากลับเที่ยวแรกของวันคนก็จะน้ยหน่อย
 |
ชมวิวสองฝั่งในยามเช้า อากาศสดใสมากๆ |
เสร็จแล้วเราก็ซื้อตั๋วรถบัส เพื่อขึ้นรถบัสกลับไปยังสถานีรถไฟ Komagane กันต่อ แต่ตัวเราไม่ทราบว่าต้องซื้อตั๋ว พอแจ้งคนขับก็ได้ความว่าสามารถจ่ายด้วยเงินสดได้เช่นเดียวกัน สำหรับทริปนี้ก็ขอจากจรกันไปก่อน บทความหน้าจะหยิบยกเอาสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมาฝากกันอีกแน่นอน