หากใครที่เป็นคอซีรีส์ แต่อยากพักตับจากซีรีส์รักๆ มาเป็นซีรีส์แนวชีวิตกันบ้างแล้วละก็ วันนี้เรามีซีรีส์ใหม่ในบ้าน netflix มานำเสนอ อย่างซีรีส์จากไต้หวัน ที่มีชื่อเรื่องว่า Forget You Not ชื่อไทยคือ ไม่มีวันลืมเลือน 2025 นำแสดงโดย เซี่ย อิงเสวียน รับบท เฉิง เล่อเล่อ, ฉิน ฮั่น รับบท เฉิง กวงฉี (พ่อ) และ ฮั่ว เจี้ยนหัว รับบท จาง ค่าย (สามี) ว่าด้วยเรื่องราวของหญิงวัย 40 ปี ที่ต้องเผชิญสารพัดความหนักหนาในชีวิต..จนยากที่จะลืมเลือนทุกๆ เรื่องราว ปล. กระซิบก่อนดูว่ากำทิชชู่กันให้แน่นๆ เพราะเรื่องนี้เสียน้ำตาหนักมากรายละเอียดซีรีส์ Forget You Not (2025) ไม่มีวันลืมเลือน
- ชื่อเรื่อง: Forget You Not (ไม่มีวันลืมเลือน)
- ประเภท: ดราม่า / คอมเมดี้ / ครอบครัว
- จำนวนตอน: 8 ตอน
- ออกอากาศทาง: Netflix (เริ่มฉาย 23 พฤษภาคม 2025)
- ผู้กำกับและเขียนบท: หลิว รั่วอิง (Rene Liu)
- นักแสดงนำ: เซี่ย อิงซวน (Hsieh Ying-xuan) รับบท เฉิง เล่อเล่อ / จิน ฮั่น (Chin Han) รับบท เฉิง กว่างจือ (พ่อของเล่อเล่อ) / วอลเลซ ฮั่ว (Wallace Huo) รับบท จาง ไค (อดีตสามีของเล่อเล่อ) / เอสเธอร์ หลิว (Esther Liu) รับบท หวง ซูเฟย (เพื่อนสนิท) / เทรซี่ โจว (Tracy Chou) รับบท หลิน เจียยวิ๋น (เพื่อนสนิท)
เรื่องย่อ ซีรีส์ Forget You Not (2025) ไม่มีวันลืมเลือน
เรื่องราวของ "เฉิง เล่อเล่อ" หญิงวัย 40 กว่า อดีตหัวหน้าไกด์ที่โดนไล่ออกเพราะโดนกล่าวหาว่าใช้ความรุนแรงกับลูกทัวร์ ทว่าความจริงไม่ใช่เช่นนั้น เธอฝ่าฟันวิกฤติวัยกลางคนอย่างยากลำบาก ก่อนท้ายที่สุดจะมานั่งสงบจิตสงบใจในร้าน Talk Show แห่งหนึ่ง และมีโอกาสได้ขึ้นไปแสดงพูดโชว์แบบไม่ได้ตั้งใจ แต่ด้วยพรสววรค์ในการพูดไม่หยุดปากของเธอ ส่งผลให้เธอให้กลายเป็นนักแสดงตลกเดี่ยวไมโครโฟน (stand-up comedian) เพื่อหาเงินเลี้ยงชีพและชุบชูจิตใจที่ผิดหวังของเธอให้ดีขึ้น
เล่อเล่อ ยังทำงานกะกลางวันที่ร้านสะดวกซื้อ เพื่อหาเงินพิเศษเพิ่มเติม ถึงแม้ชีวิตการงานจะลุ่มๆ ดอนๆ แต่แล้วเธอก้ได้พบรักกับจาง ค่าย หนุ่มนักธุรกิจที่หลงรักเธอหลังจากที่ได้ดู Talk Show ในร้าน จนกระทั่งที่ทั้ง 2 ได้แต่งงานกัน
ทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่นจนกระทั่ง เฉิงกวงฉี พ่อคนเดียวของเล่อเล่อเริ่มป่วยเป็นอัลไซเมอร์เพราะอายุที่มากขึ้น เล่อเล่อต้องพยายามสุดตัวเพื่อดูแลความเป็นอยู่ของพ่อ รวมถึงการพยายามจัดการชีวิตของตนเอง ทั้งเรื่องของเพื่อนสนิทซี้ปึกอีก 2 คน ที่ต้องเธอต้องพยายามแบ่งเวลาให้กัน รวมถึงจาง ค่าย ที่นับวันดูจะยิ่งเหินห่างกันไปไกล จนกระทั่งเธอและสามีตัดสินใจแยกขาดจากกัน
อาการป่วยของเฉิงกวงฉีรุนแรงขึ้นตามลำดับ ชีวิตของเล่อเล่อวุ่นวายและเหนื่อยหนักจนยากที่จะพรรณนา หน้าที่ลูกที่ต้องดูแลพ่อป่วยหนักจนกระทั่งปลีกเวลาไปทำงานได้ยาก ส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานและสภาพจิตใจของเธออย่างหนัก เล่อเล่อจึงตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิต และสร้างความทรงจำที่เธอเองไม่อยากจะลืมมันสักวินาที
รีวิว ซีรีส์ Forget You Not (2025) ไม่มีวันลืมเลือน
บอกเลยว่าตอนแรกที่เราเริ่มดูซีรีส์เรื่องนี้เพราะว่าภาาหน้าปก มีรูปของสาววัยกลางคนที่กำลังยิ้มร่ากับชายสูงวัยคนหนึ่ง ดูแล้วก็เข้าใจว่าจะเป็นหนัง Feel good ของครอบครัวหนึ่ง เพราะส่วนตัวอยากหลุดมาจากซีรีส์สไตล์ที่มาแรงในปัจจุบันเสียหน่อย เปิดดูตอนแรกก็ยังดูๆ หยุดๆ เพราะคิดว่าไม่สนุก หรือจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของผู้หญิงวัยกลางคนธรรมดาทั่วไป แต่ถึงกระนั้นก็แอบชอบใจที่งานภาพสวยมากจริงๆ พอลองตั้งใจดูต่อไปอีกตอน บอกเลยว่างอมแงม หาทางออกไม่เจอเสียได้
- พล็อตเรื่องเรียบง่าย แต่ยิ่งใหญ่
ถ้าเรามองพล็อตเรื่องของซีรีส์เรื่องนี้ พูดแบบกำปั้นทุบดินเลยก็คือ ลูกที่ต้องกลับมาดูแลพ่อแม่ยามแก่ชรา สอดไส้ด้วยปัญหาชีวิตที่เกิดขึ้นจริงได้ทุกเมื่อ ทั้งการทะเลาะ น้อยใจกับเพื่อนสนิท ปัญหาด้านการงาน การเงิน ชักหน้าไม่ถึงหลัง ความรักและความไม่สมหวังในชีวิตคู่ ถามว่าพล็อตมันง่ายไหม เบสิคไหม? ตอบเลยว่า โค ตะ ระ จะเบสิก ที่ไอ้ความง่ายเหล่านี้นี่แหละ ทำให้มันดูมีอะไรมากเป็นพิเศษ นั่นเป็นเพราะมันเป็นเนื้อหาชีวิตทั่วๆ ไปที่เกิดขึ้นกับปถุชนคนธรรมดาแบบเราได้ มันเลยเหมือนมีหมัดทะลวงหนักๆ ที่ฮุคเข้ามาเสยปลายคางของเราอยู่ตลอดทั้ง 8 ตอน ผลลัพธ์คือการน็อค น้ำตาไหลพรั่งพรูแบบซับเท่าไหร่ก็ไม่จาง กลายเป็นเราชอบความง่ายๆ ของเนื้อหา ความเรียบง่าย จริงใจของบทสนทนาเหล่านี้มีผลต่อใจของผู้ชมอย่างเราๆ เสียเหลือเกิน
- ตีแผ่ชีวิตของผู้คนในยุคปัจจุบันได้อย่างคมคาย
ซีรีส์จะพาเราไปดูชีวิตของหญิงวัยกลางคน 3 รูปแบบ ได้แก่ เล่อเล่อ หญิงวัยกลางคนที่พยายามดันตัวเองให้รอดไปวันๆ เธอไม่สมหวังด้านหน้าที่การงาน หาเช้ากินค่ำ แม่ก็ดันทิ้งเธอไปตั้งแต่เด็ก ส่วนพ่อก็ต้องออกไปทำงานบ่อยๆ จนแทบจะไม่ได้เจอกัน ถึงกระนั้นเธอก็รับหน้าที่ดูแลพ่อนิสัยกวนๆ ในชีวิตบั้นปลายของเขา ซึ่งก็อาจจะไม่ได้ดูแลดีเยี่ยมมากมายจนต้องออกรางวัลให้แต่เธอก็พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ไหนจะชีวิตคู่ของเธอที่เริ่มแรกเหมือนจะดี แต่สุดท้ายก็ต้องมาติดหล่มเรื่องความไม่คู่หน้าคู่ตาด้านฐานะและการงาน ก่อนที่ชีวิตของเล่อเล่อจะเจอปัญหาใหญ่ในชีวิตเพราะเธอต้องสละเวลาตัวเองทั้งหมดเพื่อดูแลพ่อที่ป่วยรุนแรง
หลิน เจียยวิ๋น 1 ในเพื่อนสนิทของเล่อเล่อ เธอเป็นตัวเแทนของหญิงวัยกลางคนที่ประสบความสำเร็จด้านชีวิตคู่ สามีของเธอมีหน้าที่การงานที่ดี พอเลี้ยงดูครอบครัวให้ใช้ชีวิตได้อย่างผาสุก เธอมีลูกเล็กๆ น่ารัก 2 คน เจียยวิ๋นพยายามอย่างหนักที่จะเลือกทุกอย่างที่ดีให้กับลูกของเธอ เธอต้องคอยดูแลเอาอกเอาใจสามี และครอบครัวของเขา (ง่ายๆ ก็คือเอาใจแม่ผัว) ถึงแม้เธอจะไม่มีภาระหนักหนาเหมือนเล่อเล่อ แต่ก็มีภาระเรื่องครอบครัวของตนให้ต้องแบกหามใส่ใจ และแนวทางที่เธอรับมือกับพ่อแม่ของตนเอง คือตัดสินใจส่งพ่อ-แม่ ไปอยู่ที่บ้านพักคนชรา มันช่างสะท้อนกฎของการได้อย่างเสียอย่างจริงๆ
หวง ซูเฟย หญิงสาวที่ต้องสูญเสียครอบครัวไปเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอเป็นตัวแทนของหญิงวัยกลางคนที่ใช้ชีวิตแบบไม่ต้องมีภาระให้ต้องใส่ใจ เธอไม่มีคนในครอบครัว ไม่มีลูก ไม่มีสามี ไม่มีพ่อแม่ให้ต้องดูแลเอาใจใส่ เธอมีหน้าที่การงานที่ดี สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข หลายคนอาจอิจฉาชีวิตของเธอ แต่หนังทำให้เราได้มองจากมุมของซูเฟยว่าชีวิตที่ไม่มีใครก็ยากลำบากไปอีกแบบเหมือนกัน เธอต้องใช้ชีวิตทุกวันด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะมีปัญหามากน้อยแค่ไหนก็ต้องแบกรับมันเอาไว้ทั้งหมด เมื่อถึงวันตรุษจีนก็ไม่มีครอบครับให้ล้อมวงหันหน้าเข้ากัน เมื่อยามจิตใจเหนื่อยล้าอ่อนแรงก็ไม่มีที่ให้พักพิง เป็นบรรยากาศเหงาๆ ที่คนที่เจอภาวะเดียวกันเท่านั้นจะเข้าใจ
- เคมีของนักแสดงที่เข้ากัน พร้อมการแสดงชั้นครู
ซูฮกให้การแสดงของ เซี่ย อิงซวน (Hsieh Ying-xuan) รับบท เฉิง เล่อเล่อ และจิน ฮั่น (Chin Han) รับบท เฉิง กวงฉี พ่อของเล่อเล่อ ทั้ง 2 คน ทำให้เราเชื่ออย่างสนิทใจว่าเป็นคู่พ่อลูกกันจริงๆ ถึงแม้จะไม่ใช่คู่พ่อลูกที่รักกันหวานชื่น เพราะตลอดเนื้อเรื่องเล่อเล่อจะมีจุดที่ไม่พอใจของพ่อเธออยู่ตลอด เล่าย้อนความไปที่พ่อเธอดูคล้ายจะไม่ได้เอาใจใส่เธอมาตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้เล่อเล่อต้องดูแลตัวเองมาตั้งแต่อายุยังน้อยๆ ตลอดเวลาที่เราดูหนัง จะทำให้เราคิดตามไปด้วยเสมอว่า ในฐานะของการเป็นลูกเราจะทำแบบที่เล่อเล่อทำไหม? โดยจะมีบางจังหวะที่เรามองว่าเล่อเล่อใจร้ายจังนะ รวมถึงมีบางจังหวะที่เรามองว่าเล่อเล่อใจกว้างมาก เรียกได้ง่ายๆ ว่าด้วยความที่บทมันสมเหตุสมผลทุกอย่างเลยทำให้เราพร้อมเข้าใจทุกการกระทำ ทุกการตัดสินใจของตัวละคร เหมือนเราได้ฟังเรื่องเล่าชีวิตจริงๆ ของคนที่รารู้จักคนไม่กล้าตัดสินการกระทำของเขาเลยก็ว่าได้ ส่วนเรื่องการแสดงบอกเลยว่าธรรมชาติสูงมากจริงๆ การสนทนา สีหน้าท่าทาง การต่อบทคือ 100% ลื่นไหล ดูไม่มีสะดุด เราชอบที่หนังปล่อยให้บางฉากที่มันไม่สมบูรณ์ติดมาด้วย ทั้งฉากเดินชน ฉากของหล่น ให้ทุกอย่างมันรันไปแบบธรรมชาติ
และที่เราเสียน้ำตาสุดๆ ก็ยกให้บทของเฉิง กวงฉี ที่เขาถ่ายทอดบทของพ่อซึ่งเริ่มจากคาแรกเตอร์น่ารักๆ สดใส กวนประสาทก่อนที่จะไปจบลงไปเป็นพ่อที่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ที่จากภายนอกแล้วน่าเป็นห่วงจริง เลยไม่แปลกใจที่เราต้องเสียน้ำตามากมายขนาดนั้น
ซีรีส์นี้มีการถ่ายทำที่เน้นความเรียบง่ายและอบอุ่น ใช้แสงและสีที่นุ่มนวลเพื่อสะท้อนอารมณ์ของตัวละครได้เป็นอย่างดี บอกเลยว่างานภาพสวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ส่วนเพลงประกอบละครจะใช้เพลงฝรั่งยุค 90 ที่เราเคยได้ยินอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น Close to you, When you say nothing at all ที่ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศและอารมณ์ของเรื่องได้อย่างลงตัว
สรุปเราสำหรับเราชอบซีรีส์เรื่องนี้อยู่ไม่น้อย ถึงแม้จะแอบขัดใจที่หนังยัดเรื่องร้ายๆ ปัญหา โชคชะตาเล่นตลกมาอัดใส่หน้านางเอกของเราจนล้นไปบ้าง แต่ภาพรวมเป็นพล็อตที่ซึ้งกินใจ ไม่ใช่แค่ซีรีส์ที่ทำให้เราบันเทิงใจ หรือร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหลแค่เพียงอย่างเดียว แต่เหมือนเนื้อหาบางส่วนจะมาแตะปุ่มความคิดของเราให้ทำงานในมุมใหม่ๆ ทำให้เราได้ถามตัวเองว่า ทุกวันเราทำดีแล้วแค่ไหน? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะยังเสียใจหรือไม่? ปัญหาร้ายแรงที่เราเจอตอนนี้ มันร้ายมาก ร้ายน้อยแค่ไหน? เราพร้อมที่จะเผชิญหน้าแล้วก้าวข้ามมัน ให้อภัยกันไปได้แล้วบ้างหรือยัง เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ควรดูเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติ มุมมอง ความคิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตได้ดีอีกเรื่องหนึ่งเลย โดยเฉพาะกับช่วงวัยกลางคนแบบเราๆ ที่น่าจะยิ่งอินเป็นพิเศษ
ขอบคุณภาพประกอบบทความทั้งหมด จาก Instagram netflixtw