หากพูดถึงร้านกาแฟที่มาแรงสุดๆ ในตอนนี้ จะไถฟีดไปทางไหนก็ต้องเจอ หนึ่งในนั้นจะต้องมีร้านกาแฟ UNO Coffee ร้านกาแฟยอดฮิต ของหนุ่มพีช พชร ดารา นักแสดง และเจ้าของธุรกิจหนุ่มไฟแรง หุ้นส่วนสำคัญของแบรนด์ Potato Corner, Khao-So-i (ข้าวโซอิ) ถามว่าฮิตแค่ไหน? ก็ต้องตอบ ฮิตในระดับที่เหล่านักชิมกาแฟยอมเสียเวลารอออเดอร์กันหลักชั่วโมง (ในช่วงวันหยุด) เลยนั่นไงละ โดยความโดดเด่นของร้านกาแฟ UNO Coffee คือ Great Coffee for all ที่แปลได้คร่าวๆ ว่า กาแฟดีสำหรับทุกคน นั่นหมายถึงว่า กาแฟคุณภาพเยี่ยม มาในราคาที่เอื้อมถึงได้ง่ายนั่นเอง UNO Coffee อร่อยไหม? ราคาเท่าไหร่ มีสาขาไหนบ้าง มาดูรีวิวกันได้เลยจ้าUNO Coffee เป็นร้านของใคร โดดเด่นตรงไหน?
UNO Coffee เป็นแบรนด์กาแฟพรีเมียมสัญชาติไทย ดำเนินงานโดยบริษัท Rocks PC จำกัด ซึ่งผู้กุมบังเหียนที่เราคุ้นหน้ากันดีคือ นุ่มพีช พชร นักแสดงหนุ่มหน้าหล่อ แถมยังเป็นทายาทตระกูลจิราธิวัฒน์ ซึ่งเป็นเจ้าของเครือเซ็นทรัลนั่นเองล่ะ
โดยถ้าถามหาความโดดเ่ดนของร้านกาแฟ UNO Coffee ต้องตอบว่าคุณภาพและราคาของเครื่องดื่มที่ทำมาได้อย่างน่าสนใจ โดยเขาเน้นการคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ชั้นเยี่ยม โดยเฉพาะกาแฟเกอิชา (Geisha) หรือเกชา (Gesha) เมนูเรือธงของแบรนด์ ซึ่งเมล็ดกาแฟชนิดนี้ถูกยกให้เป็นนางฟ้าของวงการ เพราะรสชาติและกลิ่นหอมอันโดดเด่น บ้างบอกว่ากลิ่นหอมอ่อนๆ เหมือนดอกไม้ ผลไม้ หรือกึ่งๆ ไปทางชาสมุนไพรที่รสชาติสดใส ดื่มง่าย ทั้งยังปลูกได้ยาก ปริมาณผลผลิตที่ได้จึงน้อย นอกจากนี้เมล็ดกาแฟเกอิชายังผ่านการทดสอบและแข่งขันในเวที World‑class coffee auctions ส่งผลให้เมล็ดกาแฟชนิดนี้มีราคาค่อนข้างสูง โดยอาจมีราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นต่อกิโลกรัม ขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์
UNO Coffee มีกี่สาขา ที่ไหนบ้าง
ปัจจุบัน (สิงหาคม 2568) UNO Coffee มีทั้งหมด 3 สาขา ได้แก่
- เซ็นทรัล ลาดพร้าว ชั้น 1 (ตรงข้ามร้าน Victoria's Secret) เปิดให้บริการเวลา 10:00–21:00 น.
- เมเจอร์ รัชโยธิน ชั้น 1 โซน Avenue เปิดให้บริการเวลา 08:00–17:00 น.
- centralwOrld บริเวณชั้น 1 โซน Offices (Open Soon)
UNO Coffee มีเมนูอะไรบ้าง ราคาเท่าไหร่
เมนูหลักๆ ของทางร้าน คือ กาแฟ มีเมล็ดให้เลือกหลายสายพันธุ์ (รวมถึงเกอิชา) เลือกระดับการคั่วได้ตามใจชอบ ส่วนเรื่องราคาก็ทำมาได้ดี เริ่มต้นที่หลักสิบไปจนถึงหลักร้อยต้นๆ เท่านั้น และตอนนี้ (สิงหาคม 2568) เมนูไหนที่ใส่นมสามารถเปลี่ยนเป็นนมโอ้ตได้ฟรีๆ ไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย! ตัวอย่างเมนูของ UNO Coffee เช่น
- Espresso (Shot) เอสเพรสโซ่ช็อต Hot 50
- Americano อเมริกาโน่ Hot 65 | Ice 65
- Batch Brew (Drip Coffee) แบชบริว (กาแฟดริป) Ice 65
- Latte ลาเต้ Hot 70 | Ice 70
- Cappuccino คาปูชิโน Hot 70 | Ice 70
- Esyen เอสเย็น Ice 70
- Mocha มอคค่า Hot 75 | Ice 75
- Salted Caramel Macchiato ซอล์ทคาราเมล มัคคิอาโต้ Hot 75 | Ice 75
- Dirty เดอร์ตี้ Ice 85
- Orange Coffee กาแฟส้ม Ice 85
- Thai Tea Latte ชาไทย ลาเต้ Hot 70 | Ice 70
- Chocolate ช็อกโกแลต Hot 70 | Ice 70
- Uji Matcha Latte อูจิ มัทฉะ ลาเต้ Hot 80 | Ice 80
โดยตัวเมล็ดก็มีให้เลือกหลากหลาย ได้แก่ Dark Roast พี่เข้ม / Medium Roast นุ่มละมุน / Light Roast เปรี้ยวฟรุตตี้ / Premium Americano +20 / Special Milk Blend +15
และมีเมนู Signature ของทางร้าน ซึ่งไม่สามารถปรับระดับส่วนผสมได้
- Banoffee Latte บานอฟฟีลาเต้ 90
- Pandan Latte ลาเต้ใบเตย 90
- Mango Lychee Coffee กาแฟมะม่วงลิ้นจี่ 90
- White Grape Tea ชาองุ่นขาว 90
รีวิว ร้าน UNO Coffee ร้านกาแฟ เกอิชา ตัวดัง
เอาจริงๆ เราไม่ค่อยจะได้เห็นการโปรโมทของแบรนด์มากเท่าไหร่ แต่ที่รู้จักร้าน UNO Coffee เพราะไปเดินเล่นที่เซ็นทรัลลาดพร้าว และเคยหันไปเจอคิวยาวเหยียดหน้าร้านกาแฟในช่วยงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ประกอบกับมีอินฟลูเอนเซอร์สายอาหารรีวิวร้านกาแฟ UNO กันเยอะมาก พอมีโอกาสเลยลองไปชิมตามเสียหน่อย ออกตัวก่อนว่าเราไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟแต่อย่างใด (ฮา) แต่เป็นอีกคนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟมานานหลายปี
เราเข้าไปที่ร้าน UNO Coffee สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ตอนช่วงประมาณ 10 โมงเช้า ถ้าถามว่าร้าน UNO Coffee คนเยอะไหม? ไปวันธรรมดาที่ไม่ใช่เสาร์-อาทิตย์ คนเยอะหรือเปล่า? ตอบเลยว่าเยอะค่ะ (555555+) เราเองคิดว่าไปวันทำงาน ช่วงเช้าๆ คนจะน้อย แต่ปรากฎว่าได้ต่อแถวรอคิวสั่งกาแฟไปราวๆ สัก 20-30 นาที แต่ confirm ว่ามาวันธรรมดาคนน้อยกว่าวันหยุด ใช้เวลาในการรอคิวจนได้กาแฟมาประมาณ 30-40 นาที ก็ถือว่าไม่ได้นานมากนัก
โดยตัวร้านจะเป็น Stand alone แนวยาว (อยู่ใกล้ๆ กับบันไดเลื่อนฝั่ง Tops Food) มีที่สำหรับต่อแถว
เมื่อถึงคิวก็สั่งเมนูกาแฟที่ต้องการได้เลย ข้อดีแรกคือพนักงานแคเชียร์จะอธิบายเมนูกาแฟต่างๆ ที่เราสนใจแบบใจเย็น เอาใจใส่ ให้ข้อมูลครบครัน เราว่าอันนี้ดีเพราะบางครั้งคนดื่มก็อาจไม่ชำนาญ ก็ถือว่าเขาให้คำแนะนำดีเลยละ โดยเราสามารถสั่งแบบใส่แก้วทานเลยก็ได้ หรือจะสั่งแบบแยกน้ำ แยกน้ำแข็ง เพื่อเก็บไว้ทานทีหลังได้เหมือนกันค่ะ ไม่มีการชาร์จเพิ่ม ครั้งนี้เราสั่งมาเลย 3 เมนู ได้แก่ Iced Americano (Geisha) ราคา 85 บาท / Mango Lychee Coffee 90 บาท และ Banoffee Latte 90 บาท
มาที่แก้วแรก Iced Americano (Geisha) ในราคา 85 บาท สั่งแบบทานเลย ตัวแพ็กเกจจิ้งของร้านเราว่าเขามีลูกเล่น ทำให้กาแฟแก้วละไม่ถึงร้อยดูชิค ดูคูลขึ้นมาเฉยเลย ด้วยการใช้สีเงินเมทัลลิก พูดถึงเรื่องรสชาติ Iced Americano เราว่าอร่อยดีเลยละ ปกติเราเป็นคนดื่มแค่คั่วเข้ม ชอบกาแฟขมๆ เมล็ดตัวนี้ไม่ได้ขมมากนัก แต่เขาจะมีโน้ตหอมของฟลอรัลและเบอร์รีฟุ้งไปทั่วปาก เปรี้ยวนะ แต่เปรี้ยวแบบกลมกล่อม ไม่ได้เปรี้ยวแหลมจนไม่เข้ากัน เป็นความเปรี้ยวๆ ขมๆ ที่ลงตัว อารมณ์เหมือนเวลาเรากินช็อกโกแลตแท่ง ความเข้มข้น 70% ยังไงยังงั้นเลย คนที่ชอบกินกาแฟขมๆ ไม่เปรี้ยวแบบเราดื่มได้เรื่อยๆ จนหมดแก้ว
เปิดมาดูสีที่ด้านในจะเป็นสีน้ำตาลเข้มๆ สีสวยดีเลย
ส่วนอีก 2 แก้ว เราสั่งเป็นแบบกลับบ้าน แยกน้ำ-น้ำแข็ง แพ็กเกจจิ้งก็ทำมาสวยเลยเช่นเดียวกัน โดยเขาจะเอาน้ำแข็งใส่แก้ว (เหมือนแก้วที่ดื่มเลย) ส่วนน้ำจะแยกใส่ถุงซิปล็อก สีเงินเมทัลลิก พร้อมติดสติกเกอร์ระบุรายละเอียไว้อย่างชัดเจน ดูง่าย
มาต่อที่แก้วถัดไป Mango Lychee Coffee 90 บาท เมนู Signature ของทางร้าน เขาใช้เป็นคั่วอ่อน เปรี้ยวโทนฟรุตตี้
สีของกาแฟเป็นสีน้ำตาลอ่อนมากๆ เลยทีเดียว ทันทีที่เทออกมากลิ่นหอมของลิ้นจี่ตีออกมาชัดเจน และเมื่อได้ลองชิมบอกเลยว่าอร่อย (555+) สำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟเข้มๆ ไม่หวาน ตอนแรกกังวลมากว่ามันจะหวานจนดื่มไม่ไหวหรือเปล่า แต่ปรากฎว่าเป็นความหวานในระดับที่พอดีเลย ไม่หวานแหลมเกินไป ตัวกาแฟคั่วอ่อนกลิ่นหอม มีความเปรี้ยวแฝงมาชัดแต่ในขณะเดียวกันมันก็ไปได้ดีกับรสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ ของลิ้นจี่ มะม่วง แก้วนี้ดีเลย โดยเฉพาะใครที่ดื่มกาแฟไม่เก่ง กลัวขม กลัวเข้ม ดื่มไม่ไหว สั่งแก้วนี้ลองได้
ถัดมาอีกแก้ว Banoffee Latte 90 บาท แก้วนี้อ่านรีวิวมาจากหลายๆ ที่ เขาบอกว่าดีมาก ยังไงก็ควรสั่งมาลอง ก็เลยไม่พลาดที่จะสั่งมาลอง แก้วนี้เขาใช้เมล็ดกาแฟคั่วกลาง
ใจก็กลัวมันหวานเกินไปเหมือนกัน แถมยังใส่นมมาด้วย แต่พอลองชิม..อ่ะ ความคิดเปลี่ยน กาแฟใส่นมก็อร่อยแฮะ (55555+) อร่อยนะเนี่ยะห์!! เป็นกาแฟลาเต้ ได้กลิ่นกาแฟชัด ดื่มผสมกับนมช่วยลดความเข้มของกาแฟลง เพิ่มความหวาน มัน หอมด้วยคาราเมลและครีม นอกจากนี้แบรนด์บอกว่าแก้วนี้มีส่วนผสมของกล้วย (banana) ด้วย แต่เราคิดว่ากลิ่นกล้วยมันน้อยเลย เราไม่รู้ว่ามีจนกระทั่งไปอ่านรายละเอียดส่วนผสมในโปสเตอร์ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อความอร่อย แก้วนี้ดีที่ไม่หวานจนเกินไปอีกล่ะ ถูกใจสุดๆ
โดยรวมความประทับใจสำหรับร้านกาแฟ UNO Coffee เราว่าเขาทำได้ดีหลายๆ มิติ เริ่มแรกที่คุณภาพ เขาทำกาแฟมาได้หอมโดดเด่นทุกแก้ว แพ็กเกจจิ้งสวย แก้วเก๋ ถุงใส่ด้านนอกก็คุมธีมเข้ากันดี สั่งแบบดื่มเลย รวมถึงแยกน้ำกลับบ้านได้ตามต้องการ ไม่มีบวกเพิ่ม ราคาก็ทำมาได้ดี เริ่มต้นถูกสุดที่ 50 บาท ส่วนเมล็ดกาแฟเกอิชาก็บวกเพิ่มจากเมนูปกติอีก 20 บาทเท่านั้น ส่วนรสชาติก็หอม อร่อย ดีหลายเมนู ที่สำคัญเราว่าคนที่ไม่ชอบดื่มกาแฟหวานๆ จะต้องชอบ เมนูทั่วไปอย่างอเมริกาโน ร้านจะเสิร์ฟแบบไม่หวานอยู่แล้ว แต่เมนูกาแฟฟิวชั่น เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านที่มีส่วนผสมของนม ไซรัป คาราเมล น้ำผลไม้ต่างๆ เราว่าเขาก็ทำออกมาไม่ให้มันหวานมากเกินไปเช่นกันค่ะ เป็นความหวานแบบพอดีๆ ที่ไม่ไปกลบรสชาติของกาแฟ โดยรวมคือทำได้ดีเลย ส่วนตัวรอให้เขาเปิดหลายๆ สาขา รอวันที่กระแสเข้าที่ดีๆ คนไม่เยอะมาก ก็คงจะได้ซื้อดื่มกันเป็นประจำแน่นอน