ภาพจาก Freepik.com
หากพูดถึงอาหารเพื่อดูแลสุขภาพ หรืออาหารที่หลายๆ คนนิยมเลือกทานเป็นอย่างแรกๆ เมื่อต้องกาควบคุมอาหาร หรือพยายามลดน้ำหนัก จะต้องมี ผลไม้ อยู่ด้วยอย่างแน่นอน แต่เพื่อนๆ ทราบหรือไม่ว่า ผลไม้ ที่ดูจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ เส้นใยไฟเบอร์ต่างๆ แต่ทว่ามีผลไม้อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวที่อัดแน่นไปด้วยความหวาน น้ำตาล ที่เมื่อถ้าเราทานมากเกินไป ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพแทนได้ แล้วผลไม้ น้ำตาลสูง ที่ต้องทานอย่างระวังมีอะไรบ้าง บทความนี้ onetotea92 เราขอรวม Top 10 ผลไม้น้ำตาลสูง มาฝากกัน รวม 10 ผลไม้ น้ำตาลสูง ควรรับประทานอย่างระมัดระวัง
- กล้วย
ผลไม้เนื้อนุ่ม หอม หวาน ทานอร่อย หลายๆ คน ที่เมื่อนึกถึงผลไม้ที่ทานได้ง่าย มีความเป็นมิตรต่อสุขภาพจะต้องคิดถึงกล้วยแน่นอน ในกล้วย 100 กรัม มีปริมาณน้ำตาลประมาณ 12.2 กรัม เชียวละ ทั้งนี้ น้ำตาลในกล้วยแต่ละสายพันธุ์จะมาก-น้อย แตกต่างกันไปด้วยนะ จากข้อมูลพบว่าในปริมาณเท่าๆ กัน กล้วยไข่จะมีประมาณน้ำตาลอยู่เยอะสุด กล้วยหอม รองลงมาคือกล้วยน้ำว้า และล้วยเล็บมือนาง
- องุ่น
ผลไม้รสหวานทานอร่อย ยิ่งเอาไปแช่เย็นตอนทานก็ยิ่งสดชื่นสุดๆ องุ่น 100 กรัม มีปริมาณน้ำตาลอยู่ที่ 16.3 กรัมเชียวนะ ถึงว่าเป็นปริมาณที่สูงเอาเรื่องเลยทีเดียวเชียว เพราะฉะนั้นจึงต้องทานกันอย่างพอเหมาะพอดี นอกจากองุ่นแบบผลสดก็ต้องระวังลูกเกด ที่ทำมาจากองุ่นที่เอาไปอบแห้งด้วยเช่นเดียวกัน ยิ่งเมื่อเรานำน้ำออกจากผลไม้ ก็จะยิ่งทำให้เราทานในปริมาณมากได้โดยไม่รู้ตัว
- มะม่วงสุก
มะม่วง โดยเฉพาะมะม่วงสุก เป็นอีกหนึ่งผลไม้หาทานง่าย เป็นแหล่งของวิตามิน A, C และวิตามิน B6 มีแร่ธาตุหลายชนิด แต่ก็มีน้ำตาลอยู่ค่อนข้างเยอะเหมือนกัน โดยมะม่วงสุก 100 กรัม มีปริมาณน้ำตาลอยู่ที่ 13.6 กรัม
- ลำไย
ผลไม้เนื้อสีใส สัมผัสกรอบๆ นิดๆ มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง แต่ปริมาณน้ำตาลในลำไยก็สูงเช่นเดียวกันเลยนะ โดยในเนื้อลำไย 100 กรัม มีน้ำตาลประมาณ 18 กรัมเลยทีเดียวเชียวละ เพราะฉะนั้นหน้าลำไยมาเมื่อไหร่ ก็ต้องทานแต่พอดีๆ
- ลิ้นจี่
ลิ้นจี่ 100 กรัม มีน้ำตาล 16.2 กรัม ลิ้นจี่เป็นผลไม้ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ด้วยเปลือกสีแดงๆ ผิวขรุขระนิดๆ แต่เนื้อด้านในของลิ้นจี่นั่นนุ่ม แน่น เต็มคำ อัดแน่นไปด้วยความหวานแบบฉ่ำๆ แถมยังมีคุณประโยชน์หลากหลายอย่าง ทั้งเป็นแหล่งของวิตามิน C วิตามิน B สารต้านอนุมูลอิสระ แต่ในลิ้นจี่ 100 กรัม มีน้ำตาลอยู่ที่ประมาณ 16.2 กรัม เลยทีเดียวเชียวละ โดยเฉพาะพวกน้ำลิ้นจี่ ลิ้นจี่กระป๋อง ที่เพิ่มน้ำเชื่อมเข้ามาด้วย ควรรับประทานกันแต่พอเหมาะ
- สับปะรด
สับปะรด 100 กรัม มีน้ำตาลประมาณ 10 กรัม สับปะรด ผลไม้เนื้อกรอบๆ ฉ่ำๆ ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ รสเปรี้ยวๆ หวานๆ นิยมทานคู่กับพริกเกลือ มีคุณประโยชน์มากมาย ทั้งเป็นแหล่งของวิตามิน A, B และ วิตามิน C เป็นแหล่งของเอนไซม์โบรมีเลน ช่วยย่อยอาหาร เลยเห็นบางสูตรที่เอาสับปะรดไปหมักเนื้อ ช่วยให้เนื้อนุ่ม ประโยชน์มากมาย แต่ก็มีปริมาณน้ำตาลแฝงอยู่ไม่น้อย ยิ่งคนที่ทานคู่กับพวกพริกเกลือก็ต้องทานในปริมาณที่พอเหมาะ
- มังคุด
มังคุด 100 กรัม มีน้ำตาล 17 กรัม ผลไม้ที่ได้รับสมญานามว่า ราชินิแห่งผลไม้ ด้วยรสชาติที่หวานอร่อย ทานแล้วสดชื่น ประกอบกับมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เช่น สารแซนโทนในกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นแหล่งของวิตามิน C วิตามิน B แมกนีเซียม และโพแทสเซียม ถึงแม้จะทานอร่อยมากแค่ไหน ก็ต้องทานแต่พอเหมาะ เพราะมังคุดปริมาณ 100 กรัม มีน้ำตาลสูงถึง 17 กรัมเลยทีเดียว
- เชอร์รี
เชอร์รี 100 กรัม มีน้ำตาลประมาณ 13 กรัม ผลไม้สีแดง รสอมหวานอมเปรี้ยว เนื้อสีแดง สด กรอบ อุดมไปด้วยวิตามิน C วิตามิน A และวิตามิน K มีโพแทสเซียม ทองแดง แมงกานีส ฯลฯ นิยมเอามาทานเปล่าๆ หรือเอามากินคู่กับโยเกิร์ต ทำสมูทตี้ เชอร์รีที่มองเห็นว่าเป็นผลเล็กๆ แบบนี้ กลับซ่อนน้ำตาลไว้เยอะเลยทีเดียว โดยในเชอร์รี 100 กรัม มีน้ำตาลประมาณ 13 กรัม เลยทีเดียวเชียว
- กีวี
กีวี 100 กรัม มีน้ำตาลประมาณ 9 กรัม ผลไม้เนื้อใส มีหลายสี ทั้งกีวีสีแดง สีเขียว และสีทอง กีวีเป็นแหล่งของวิตามิน C, K และวิตามิน E และโฟเลต เรียกว่าประโยชน์หลากหลาย อีกทั้งรสชาติอมเปรี้ยวอมหวาน ทานเล่นๆ ก็ได้ หรือเอามาทำสมูทตี้ กินคู่กับสลัด ก็เพิ่มรสชาติความสดชื่นได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ก็ควรควบคุมปริมาณทานการกีวีแต่พอเหมาะด้วยนะ
- ส้ม
ส้ม 100 กรัม มีน้ำตาลประมาณ 9 กรัม ผลไม้ที่เรามักซื้อติดบ้าน ติดครัว และที่สำคัญคือเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับการซื้อใส่กระเช้าเป็นของขวัญ ของฝาก ส้มเป็นผลไม้รสหวานๆ เปรี้ยวๆ ที่มีประโยชน์ เป็นแหล่งของวิตามิน อย่างวิตามิน C ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งของวิตามิน A วิตามิน B รวมถึงโฟเลต และเส้นใยอาหาร แต่อย่างไรก็ตาม ควรทานส้มในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะส้มก็มีน้ำตาลแฝงเยอะเช่นเดียวกัน และด้วยความเป็นกรดอ่อนๆ ก็อาจทำให้ไม่สบายกระเพาะได้หากทานมากเกินไป โดยเฉพาะในกลุ่มที่รอยโรคเดิมอยู่แล้ว
ย้ำอีกครั้งว่า ผลไม้เหล่านี้ล้วนเป็นอาหารที่มีประโยชน์ ทานได้ แต่ต้องควบคุมปริมาณการทานให้เหมาะสม ไม่ทานเยอะเกินไป หรืออาจลองเปลี่ยนมาทานผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลน้อยกว่าแทน เช่น ฝรั่ว แคนตาลูป สตรอว์เบอร์รี และอะโวคาโด (ในปริมาณที่พอเหมาะ) เพียงเท่านี้การทานผลไม้ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลแต่อย่างใด
Tags:
สุขภาพ










