มาเที่ยวญี่ปุ่นกันดีกว่า โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอย่าง เจแปนเอลป์ Japan Alps ซึ่งกินพื้นที่ครอบคลุมหลากหลายจังหวัด แต่วันนี้เราไปเป็นถสานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ที่ไม่ว่าจะเป็นทั้งคนญี่ปุ่ คนไทย และต่างชาตินิยมไปเที่ยวกัน นั่นก็คือ ที่ Hakuba Iwatake Mountain Resort ลานสกีชื่อดัง ที่ผันมาเป็นพื้นที่ชมวิวสวยๆ หลังหิมะละลาย สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีเดินทางไป Hakuba Iwatake Mountain Resort ไปยังไง มีอะไรบ้าง? มาดูกันได้เลยจ้า
ใช้เวลาในการนั่งรสบัสมายังสถานี Hakuba ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ระหว่างทางเป็นวิวธรรมชาติล้วนๆ สวยดี โดยเฉพาะช่วงที่เริ่มมองเห็นยอพเขาเจแปน แอลป์ จะสวยมากเป็นพิเศษ ถ้ามาช่วงหน้าหิมะคิดว่าต้องสวยมากแน่ๆ
ที่สถานี Hakuba แห่งนี้ ในหน้า low season ก็อาจจะเงียบเหงาหน่อย หน้าสถานีมีร้านขายของฝาก ร้านอาหารที่เปิดเป็นช่วงเวลาบ่ายและเย็น มีตู้กดน้ำสามสี่เครื่อง และมีร้านขายของชำเล็กๆ ในสถานี
สำหรับใครที่มาถึงสถานี และต้องการออกไปเที่ยวก่อนเข้าโรงแรม สามารถฝากกระเป๋าไว้ที่ Coin Lockers ได้ มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่
เดินตรงออกจากสถานีไม่เกิน 10 นาที เพื่อมายังสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกจุด คือ Snow Peak ด้านในตัวอาคารจะเป็นร้านกาแฟสตาร์บัคส์ และร้านขายของแบรนด์ตั้งแคมป์ เดินป่า ส่วนด้านหลังอาคารเป็นลานโล่งๆ ซึ่งวันที่เราไปเขามีจัดลานขายอาหาร และไวน์พอดี ตกเย็นๆ Vibe สุดชิล
เดินเที่ยวแปบๆ ก็กลับมาที่สถานี เพราะเราตะขึ้นรถบัสฟรีไปที่ Hakuba Iwatake Mountain Resort (รอบเวลาอัปเดต พฤษภาคม 2568) ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 15 นาที
ติดๆ กันเป็นจุดขายตั๋ว ซึ่งเราสามารถซื้อตั๋วเพื่อขึ้นกอนโดลาในราคา 2,900 บาท/คน ตั๋วนี้ใช้ทั้งขาขึ้นและขาลง นอกจากนี้เรายังสามารถใช้เพื่อนั่งกระเช้าลงไปที่อีกจุดที่เนินเขาได้ด้วย
เมื่อเราออกมาจากกระเช้า จะเจอดับร้านคาเฟ่ ถัดมาคือลานชมวิวที่เนินเขา อากาศวันนั้นสวยงามมาก วิวดี มองเห็นเขาสุดลูกหูลูกตา นักท่องเที่ยวไม่เยอะมาก มีเดินทางมาและกลับสลับไปเรื่อยๆ
เดินตรงเข้ามาจะเป็นส่วนของ Hakuba mountain harbor จุดชมวิว ถ่ายภาพเจแปน แอลป์สวยๆ และร้านคาเฟ่ City bakery
วิวสวยตั้งแต่ทางเข้าร้านเลยทีเดียว โดยเราจะต้องต่อแถว ทางซ้ายเป็นแถวเพื่อถ่ายภาพวิวแบบพาโนรามา และทางขวาเป็นทางต่อคิวเข้าร้านคาเฟ่
ส่วน City bakery cafe จะเป็นคาเฟ่วิวสวยๆ ขนาดย่อมๆ มีให้บริการพวกเบเกอรี่ ทั้งแบบคาวและหวาน เครื่องดื่มทั้งชา กาแฟ และเครื่องดื่มอื่นๆ
เราซื้อมากินแบบพอกรุบกริบ มีช็อกโกแลตร้อน น้ำขิงผสมแอปเปิลรสเปรี้ยวๆ ร้อนๆ จากขิง เหมาะกับช่วงอากาศเย็นๆ ราคากลางๆ ไม่แพงเวอร์ ส่วนรสชาติเราว่าเป็นรสชาติทั่วๆ ไป ไม่หวือหวา บริเวณที่อยู่ติดกับคาเฟ่ฝั่งซ้ายมือจะเป็นชิงช้าคู่ ให้เราได้ไกวกับวิวเขาสวยๆ ชวนหวาดเสียว
หลังจากไปมุมถ่ายรูปยอดฮิตของ Hakuba Iwatake Mountain Resort มาแล้ว เราก็ขอนั่งลงไปชมวิวฟินๆ จากมุมสูง ที่ด้านบนจะมีชิงช้าคู่ ส่วนด้านล่างจะมีชิงช้ายักษ์แบบตัวเดียว
ค่าขึ้นไม่ต้องจ่าย เพราะใช้ใบเดียวกับที่ซื้อมากด้านล่างได้เลย อย่าลืมเก็บตั๋วไว้กับตัวให้ดี
ด้านล่างจะมีคาเฟ่เล็กๆ เขาเน้นเรื่องชา และขนมอย่างสโคน มีไอศกรีม soft serve ด้วย
กินไปจนอิ่ม เราก็นั่งกระเช้าขึ้นมาที่ลานชั้นบน และมุ่งไปที่ร้านอาหารและคาเฟ่แรกที่อยู่ติดกับกอนโดล่าขามา ด้านหน้าของอาคารจะเป็นคาเฟ่ และด้านหลังเป็นศูนย์อาหาร
ซุปกุ้ง หอมมากกก อร่อยเลย เขาจะไม่เป็นซุปข้นๆ แต่เป็นน้ำใสที่อัดแน่นด้วยกลิ่นและความมันของกุ้ง กินคู่กับข้าวสวยแบบที่หุงใส่งายิ่งอร่อย
กินเสร็จก็ได้เวลาเดินทางกลับไปสถานี Hakuba นั่งกระเช้าลงไปที่ชั้นล่างสุด ลานด้านหน้ามีร้านขายแฮมเบอเกอร์ เฟรนซ์ฟรายส์
เสร็จแล้วก็ถึงเวลาเดินทางกลับ เรื่องรอบเวลารถดูตามภาพได้เลยจ้า สำหรับที่เที่ยวแห่งนี้จุดเด่นคือวิวธรรมชาติสวยๆ ของเจแปน แอลป์ วิวสวยงามสุดๆ โดยเฉพาะเวลาที่ภูเขาถูกปกคลุมเอาไว้ด้วยหิมะ ตัดสลับกับสีเขียวๆ น้ำตาลๆ ของภูเขา การเดินทางไม่ยาก เริ่มต้นจากสถานี Hakuba และขึ้นนถบัสฟรีมาได้เลย มีมุมกิจกรรมให้เล่น และมีอาหารให้ทานครบทั้งของคาว ของหวาน
ROUTE ที่เราจะไปวันนี้ เริ่มต้นมาจากสถานี Nagano ซื้อตั๋วเพื่อเดินทางไป Hakuba staion ได้จากใน Ticket Office (คนละ 2,900 เยน) จากนั้นให้ใช้ East exist จากนั้นลงลิฟต์หรือบันำดมาที่ชั้น 1 เดินตรงไปสุดทางที่ป้ายรถบัสหมายเลขที่ 26 (สามารถเช็กรอบเวลาได้จากหน้าเว็บไซต์)
ใช้เวลาในการนั่งรสบัสมายังสถานี Hakuba ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ระหว่างทางเป็นวิวธรรมชาติล้วนๆ สวยดี โดยเฉพาะช่วงที่เริ่มมองเห็นยอพเขาเจแปน แอลป์ จะสวยมากเป็นพิเศษ ถ้ามาช่วงหน้าหิมะคิดว่าต้องสวยมากแน่ๆ
ที่สถานี Hakuba แห่งนี้ ในหน้า low season ก็อาจจะเงียบเหงาหน่อย หน้าสถานีมีร้านขายของฝาก ร้านอาหารที่เปิดเป็นช่วงเวลาบ่ายและเย็น มีตู้กดน้ำสามสี่เครื่อง และมีร้านขายของชำเล็กๆ ในสถานี
สำหรับใครที่มาถึงสถานี และต้องการออกไปเที่ยวก่อนเข้าโรงแรม สามารถฝากกระเป๋าไว้ที่ Coin Lockers ได้ มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่
เดินตรงออกจากสถานีไม่เกิน 10 นาที เพื่อมายังสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกจุด คือ Snow Peak ด้านในตัวอาคารจะเป็นร้านกาแฟสตาร์บัคส์ และร้านขายของแบรนด์ตั้งแคมป์ เดินป่า ส่วนด้านหลังอาคารเป็นลานโล่งๆ ซึ่งวันที่เราไปเขามีจัดลานขายอาหาร และไวน์พอดี ตกเย็นๆ Vibe สุดชิล
เดินเที่ยวแปบๆ ก็กลับมาที่สถานี เพราะเราตะขึ้นรถบัสฟรีไปที่ Hakuba Iwatake Mountain Resort (รอบเวลาอัปเดต พฤษภาคม 2568) ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 15 นาที
ติดๆ กันเป็นจุดขายตั๋ว ซึ่งเราสามารถซื้อตั๋วเพื่อขึ้นกอนโดลาในราคา 2,900 บาท/คน ตั๋วนี้ใช้ทั้งขาขึ้นและขาลง นอกจากนี้เรายังสามารถใช้เพื่อนั่งกระเช้าลงไปที่อีกจุดที่เนินเขาได้ด้วย
จุดขึ้นกอนโดลาจะอยู่ใกล้ๆ กันซื้อตั๋วเสร็จก็เดินมาตรวจตั๋ว จากนั้นก็ขึ้นไปได้เลย
วิวระหว่างที่เราเดินทางด้วยกอนโดลาก็สวยงามไม่แพ้กัน มองเห็นทั้งหุบเขา และเจแปน แอลป์ เสริมด้วยอีกนิดกอนโดลาเป็นเครื่องใหม่ที่เปิดใช้ในปี 2568 ตัวเสาเลยดูมั่นคง แข็งแรง และสูงกว่าตัวเสาแบบเดิม
วิวระหว่างที่เราเดินทางด้วยกอนโดลาก็สวยงามไม่แพ้กัน มองเห็นทั้งหุบเขา และเจแปน แอลป์ เสริมด้วยอีกนิดกอนโดลาเป็นเครื่องใหม่ที่เปิดใช้ในปี 2568 ตัวเสาเลยดูมั่นคง แข็งแรง และสูงกว่าตัวเสาแบบเดิม
เมื่อเราออกมาจากกระเช้า จะเจอดับร้านคาเฟ่ ถัดมาคือลานชมวิวที่เนินเขา อากาศวันนั้นสวยงามมาก วิวดี มองเห็นเขาสุดลูกหูลูกตา นักท่องเที่ยวไม่เยอะมาก มีเดินทางมาและกลับสลับไปเรื่อยๆ
เดินตรงเข้ามาจะเป็นส่วนของ Hakuba mountain harbor จุดชมวิว ถ่ายภาพเจแปน แอลป์สวยๆ และร้านคาเฟ่ City bakery
วิวสวยตั้งแต่ทางเข้าร้านเลยทีเดียว โดยเราจะต้องต่อแถว ทางซ้ายเป็นแถวเพื่อถ่ายภาพวิวแบบพาโนรามา และทางขวาเป็นทางต่อคิวเข้าร้านคาเฟ่
ส่วน City bakery cafe จะเป็นคาเฟ่วิวสวยๆ ขนาดย่อมๆ มีให้บริการพวกเบเกอรี่ ทั้งแบบคาวและหวาน เครื่องดื่มทั้งชา กาแฟ และเครื่องดื่มอื่นๆ
เราซื้อมากินแบบพอกรุบกริบ มีช็อกโกแลตร้อน น้ำขิงผสมแอปเปิลรสเปรี้ยวๆ ร้อนๆ จากขิง เหมาะกับช่วงอากาศเย็นๆ ราคากลางๆ ไม่แพงเวอร์ ส่วนรสชาติเราว่าเป็นรสชาติทั่วๆ ไป ไม่หวือหวา บริเวณที่อยู่ติดกับคาเฟ่ฝั่งซ้ายมือจะเป็นชิงช้าคู่ ให้เราได้ไกวกับวิวเขาสวยๆ ชวนหวาดเสียว
หลังจากไปมุมถ่ายรูปยอดฮิตของ Hakuba Iwatake Mountain Resort มาแล้ว เราก็ขอนั่งลงไปชมวิวฟินๆ จากมุมสูง ที่ด้านบนจะมีชิงช้าคู่ ส่วนด้านล่างจะมีชิงช้ายักษ์แบบตัวเดียว
ค่าขึ้นไม่ต้องจ่าย เพราะใช้ใบเดียวกับที่ซื้อมากด้านล่างได้เลย อย่าลืมเก็บตั๋วไว้กับตัวให้ดี
ด้านล่างจะมีคาเฟ่เล็กๆ เขาเน้นเรื่องชา และขนมอย่างสโคน มีไอศกรีม soft serve ด้วย
กินไปจนอิ่ม เราก็นั่งกระเช้าขึ้นมาที่ลานชั้นบน และมุ่งไปที่ร้านอาหารและคาเฟ่แรกที่อยู่ติดกับกอนโดล่าขามา ด้านหน้าของอาคารจะเป็นคาเฟ่ และด้านหลังเป็นศูนย์อาหาร
หาอะไรมารองท้องกันเบาๆ ก่อนกลับ เราสั่งเป็นเซ็ตซุปและข้าวสวย มีซุปเนื้อตุ๋น และซุปมันกุ้งอย่างละถ้วย
ซุปกุ้ง หอมมากกก อร่อยเลย เขาจะไม่เป็นซุปข้นๆ แต่เป็นน้ำใสที่อัดแน่นด้วยกลิ่นและความมันของกุ้ง กินคู่กับข้าวสวยแบบที่หุงใส่งายิ่งอร่อย
กินเสร็จก็ได้เวลาเดินทางกลับไปสถานี Hakuba นั่งกระเช้าลงไปที่ชั้นล่างสุด ลานด้านหน้ามีร้านขายแฮมเบอเกอร์ เฟรนซ์ฟรายส์
![]() |
มาสคอตประจำจังหวัด นะงะโนะ น้องอารุคุมะ |