ประเทศญี่ปุ่น กำลังเรียกหาคุณอยู่หรือเปล่า? เมื่อไหรที่เริ่มบินไปเที่ยวญี่ปุ่น บอกได้เลยว่ามันจะไม่จบที่ครั้งเดียวเท่านั้น จุดเริ่มต้นของการเดินทางก็จะต้องเป็น สายการบินไปญี่ปุ่น ซึ่งทริปนี้เราเลือกบินไป-กลับ กับสายการบิน ANA (All Nippon Airways) บินตรงจากสนามบินสวุรรณภูมิ - สนามบินนาริตะ หลังบินเสร็จก็มีแต่ความประทับใจ เลยอยากขอหยิบยกรีวิวมาฝากเพื่อนๆ นักเดินทางกัน
นอกจากนี้เขามีบริการ wi-fi ด้วยค่ะ แพคเกจฟรีสามารถใช้งานรับส่งข้อความผ่านไลน์หรือ Messenger แต่ถ้าอยากใช้งานนอกเหนือจากนั้นจะต้องชำระเงินเพิ่ม แพ็กเกจ 30 นาที ราคา 6.95 usd / 3 ชั่วโมง 16.95 usd และ Full flight 21.95 usd ซึ่งราคาก็ถือว่าค่อนข้างแพงอยู่เหมือนกัน
นอกจากนี้เขามีบริการ wi-fi ด้วยค่ะ แต่จะต้องชำระเงินเพิ่ม แพ็กเกจ 30 นาที ราคา 6.95 usd / 3 ชั่วโมง 16.95 usd และ Full flight 21.95 usd ซึ่งราคาก็ถือว่าค่อนข้างแรงอยู่เหมือนกัน
เนื่องจากเป็นไฟลท์แบบ Full Service พนักงานดูแลบนเครื่องก็จะออกมาดูแลเราเป็นระยะ สามารถขอเครื่องดื่มต่างๆ ได้ตลอดทั้งการเดินทาง
จองตั๋ว All Nippon Airways ผ่านช่องทางไหน?
ส่วนตัวเราจอง ANA ไปญี่ปุ่น ผ่านทางเว็ปไซต์ https://www.ana.co.jp/th/th/ โดยจองล่วงหน้าประมาณ 4-5 เดือน ทางสายการบิน ANA มีที่นั่งให้เลือกจองทั้งหมด 4 แบบ ได้แก่ ชั้นประหยัด ชั้นประหยัดพรีเมียม และชั้นธุรกิจ ส่วนตัวเราจองเป็นชั้นประหยัด ไป-กลับ สุวรรณภูมิ-นาริตะ ค่าใช้จ่ายประมาณ 2x,xxx บาท/ คน ได้กระเป๋า 2 ใบ ใบละไม่เกิน 23 kg. (ตกคนละ 46 kg.) เรทราคานี้ถือว่าโอเคสำหรับแผนการเดินทางของตัวเอง (ราคาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา)
รีวิว สายการบิน ANA บินตรงสนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินนาริตะ ญี่ปุ่น
Flight ที่เราจองจะออกตอน 07.00 น. เลยต้องออกมาเช็กอินตั้งแต่ช่วง 04.00-05.00 น. จำนวนคนที่มาเช็กอินถือว่าไม่มากไม่น้อย ใช้เวลารอคิวเช็กอินไม่นาน เพื่อความสะดวกสามารถเช็กอิน online มาก่อน แล้วมา backdrop กระเป๋า แถวจะสั้นกว่า โดยบริเวณโหลดสัมภาระของคนที่เช็กอินมาก่อนแล้วก็จะอยู่ใกล้ๆ กัน
หลังจากเช็กอิน ตรวจสัมภาระ กินข้าวรองท้องเสร็จเรียบร้อย เราก็เดินมาที่เกท E9 เพื่อขึ้นเครื่อง ไฟลท์ตรงเวลา ไม่ดีเลย์ สำหรับการเรียกขึ้นเครื่องเขาจะแบ่งเรียกเป็นกลุ่มๆ ตามที่นั่งที่เลือกซื้อมา อันนี้ก็สะดวกดีเหมือนกัน ไม่ต้องยืนออรอคิวขึ้นเครื่องกันนาน
![]() |
มีผ้าห่มใว้บริการ |
![]() |
หูฟังส่วนตัว ไว้ดูหนัง ฟังเพลง |
บอร์ดดิ้งเรียบร้อย ที่นั่งโซนประหยัดอยู่ด้านหลัง ที่นั่งเป็นแบบ 3:3:3 สำหรับเราที่นั่งกว้างขวาง นั่งสบาย ไม่อึดอัด อุปกรณ์อื่นๆ จะมีหูฟังไว้สำหรับดูหนังฟังเพลงจากจอส่วนตัวที่เบาะหน้า และมีแจกผ้าห่มให้ด้วย เพื่อความหลับแซ่บ ส่วนเรื่องแอร์รู้สึกว่าตอนบอร์ดดิ้งแอร์จะเย็นดี แต่พอตอนเริ่มเทคออฟไปสักพักอุณหภูมิจะร้อนขึ้น แต่ก็ไม่ได้ร้อนจนอึดอัด
เรานั่งไม่ไกลจากโซนประหยัดพรีเมียม ตรงกลางเครื่องมีหน้าจอใหญ่ ให้เราดูระยะทางการบินตลอด ทั้งนี้ก็สามารถเลือกดูจากหน้าจอส่วนตัวได้เช่นเดียวกัน
ที่หน้าจอส่วนตัวมีหนัง อนิเมชั่นต่างๆ ให้ดู แต่ส่วนตัวเราไม่ค่อยได้ใช้จอเท่าไหร่เพราะพก ipad พร้อมโหลดหนังขึ้นไปดูแบบเต็มที่
นอกจากนี้เขามีบริการ wi-fi ด้วยค่ะ แพคเกจฟรีสามารถใช้งานรับส่งข้อความผ่านไลน์หรือ Messenger แต่ถ้าอยากใช้งานนอกเหนือจากนั้นจะต้องชำระเงินเพิ่ม แพ็กเกจ 30 นาที ราคา 6.95 usd / 3 ชั่วโมง 16.95 usd และ Full flight 21.95 usd ซึ่งราคาก็ถือว่าค่อนข้างแพงอยู่เหมือนกัน
ส่วนห้องน้ำก็เป็นขนาดมาตรฐาน มีบริการหลายจุดทั่วลำ ห้องน้ำสะอาดดี
เมื่อไฟลท์บินไปได้ประมาณ 2 ชั่วโมง จะเริ่มบริการอาหารร้อน สำหรับมื้อเช้าจะมีให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ คือ ไก่ทอดกรอบเคี่ยวซอสถั่วเหลือง และ ข้าวหน้าไข่ออมเล็ตชีส กับไก่ มะเขือเทศ และไส้กรอกหมู นอกจากอาหารหลักในชุดที่เสิร์ฟมาจะมีพวกผักดอง ผลไม้ ขนมปัง+เนย น้ำเปล่า และโยเกิร์ตมาให้ด้วย โดยในแต่ละเซ็ตจะแตกต่างกันเล็กน้อย ทั้งนี้เราสามารถขอรับเครื่องดื่มอื่นๆ จากพนักงานได้ด้วย พวกชาเขียว น้ำเปล่า น้ำอัดลม หรือแอลกอฮอล์
ส่วนตัวเราสั่งมาชิมทั้ง 2 อย่าง รสชาติของอาหารจะเป็นรสกลางๆ ไม่เข้มข้น ค่อนไปทางรสอ่อนๆ คือสามารถกินได้ทุกคนแน่ๆ ส่วนตัวเราแอบชอบเมนูไก่ทอดกรอบเคี่ยวซอสถั่วเหลืองมากกว่า เพราะมีเนื้อเยอะกว่า กับข้าวขาวที่จะไม่ร่วนเท่าข้าวผัดในอีกเมนู
ส่วนช่วงอีก 1-2 ชั่วโมงก่อนแลนด์ มีครัวซองต์ให้อีก 1 ชิ้น ทำให้เราไม่หิวมากเกินไปตอนเครื่องลง เรื่องอาหารเราว่า ANA เขาบริการได้ดีค่ะ
อันนี้ขอเสริมเข้าไปด้วยสำหรับมื้ออาหารในไฟลท์ขากลับ อาหารก็ยังจัดเต็มเหมือนเดิม สำหรับไฟลท์ค่ำจะมีอาหารให้เลือก 2 แบบ คือ ไก่ทอดซอสนัมบัง กับซอสทาร์ทาร์ราดข้าว และ กราแตงข้าวครีมซีฟู้ด ตรงนี้เราชอบกราแตงมากกว่าเพราะข้าวนุ่มๆ ชุ่มครีม กินอร่อยดี นอกจากข้าวในเซ็ตจะมีของกินอื่นๆ มาเยอะเลย ทั้งขนมปัง สลัดผัก เครื่องเคียงอีก 2 ชนิด และแครกเกอร์+ชีส รู้สึกจะได้เยอะกว่ามื้อขามา
ไฟลท์หลังมีปิดท้ายด้วยไอศกรีม Haagen Dazs คนละถ้วย (ไฟลท์ขามาไม่มีไอศกรีม)
![]() |
มีน้องโปเกมอน ออกมาในสื่อของ ANA เรื่อยๆ น่ารักมากก |
เราใช้เวลาในการเดินทางไปสนามบินนาริตะ (จากสุวรรณภูมิ) ประมาณ 6 ชั่วโมงนิดๆ ตลอดไฟลท์บินรู้สึกสบาย ที่นั่งดีไม่คับแคบ ไฟล์บินตรงเวลา และมาถึงก่อนกำหนดประมาณ 30 นาทีเห็นจะได้ การบริการของพนักงานบนเครื่องก็ดีมากๆ ถือเป็นสายการบินสำหรับมาเที่ยวญี่ปุ่นที่เรารู้สึกประทับใจค่ะ ยกให้เป็นอีก 1 choice สำหรับสายการบินที่จะใช้บริการซ้ำในอนาคต